Pocket WiFi

Pocket WiFi
Pocket WiFi แชร์เน็ทแรงได้ทุกที่ รายรื่นไม่มีสะดุด

เครื่องวัดความดัน

        เครื่องวัดความดัน

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2558

โฉมใหม่ Mitsubishi New Pajero Sport 2015 มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้หัวใจคุณต้องสั่นไหว!!

Mitsubishi



All New Pajero Sport 2015 เปิดตัวแล้วในงานบิ๊กมอเตอร์เซลส์ นี่คือออฟโรดรุ่นล่าสุดจาก Mitsubishi วางเครื่องยนต์ MIVEC VG Turbo 2.4 ลิตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ราคาเปิดตัวช่วงแนะนำ 1,138,000-1,399,000 บาท ถึง 30 ก.ย. หลังจากนี้ ราคาตัว Top จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,450,000 บาท พร้อมส่งมอบในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป รุ่น GT- Premium (4WD) ราคา 1,399,000 (ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไปราคา 1,450,000 บาท)รุ่น GT (2WD) ราคา 1,250,000 บาท สำหรับสีขาวมุก เพิ่มอีก 15,000 บาท



Mitsubishi



All New Pajero Sport รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2015 เปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกโดยใช้งานบิ๊กมอเตอร์เซลส์ จัดการเปิดผ้าคลุมอย่างยิ่งใหญ่ เป็นการท้าชนปะทะซึ่งหน้ากับรถ SUV คู่แข่งอย่าง Toyota New Fortuner และ Ford New Everest 2015 ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ไม่นานนัก New Pajero Sport ออกแบบใหม่หมดทั้งคันโดยไม่มีชิ้นส่วนใดเกี่ยวข้องกับ Pajero Sport รุ่นที่แล้ว ด้านหน้าในสไตล์ “Dynamic Shield” (ไดนามิก ชิลด์) เอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์ Mitsubishi ในอนาคต ด้วยรูปแบบของไฟหน้าโปรเจคเตอร์ Bi-LED พร้อมระบบปรับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบสเปคตรัม LED หรือ Spectrum LED Daytime Running Light) (เฉพาะรุ่น GT และ GT- Premium เช่นเดียวกับไฟท้ายแบบสเปคตรัม LED (Spectrum LED ทรงของสัดส่วนบั้นท้ายที่ใช้ไฟท้ายแบบใหม่ดูเยอะไปนิดแต่ทรงของด้านหน้านั้นโดนใจนักเลงรถออฟโรดสไตล์อเนกประสงค์อย่างจั๋งหนับเลยทีเดียว



Mitsubishi


Mitsubishi


สปอยเลอร์หน้ามีมิติที่เข้ารูปกับด้านหน้าจากการออกแบบที่ปรับมาเพื่อสร้างมุมมองใหม่ โดยได้รับการออกแบบให้มีความโค้งมนช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ โป่งข้างซุ้มล้อหน้า-หลัง เข้ากับรูปลักษณ์ด้านข้างที่แสดงตัวตนในแบบรถลุยพร้อมพลาสติกกันกระแทกคลุมปิด กาบบันไดด้านข้าง กันโคลน ได้รับการออกแบบให้มีความสอดคล้องกับตัวรถ พร้อมเส้นสายของตัวรถที่ให้อารมณ์ของการขับเคลื่อนไปข้างหน้า


Mitsubishi


Mitsubishi



Mitsubishi


ภายในห้องโดยสารวางโทนสีดำแบบเคร่งขรึมแบบผู้บริหาร ตกแต่งเพิ่มด้วยสีเงิน ซิลเวอร์ เดคคอเรชั่น ผสมผสานกับสีดำแบบ Piano Black ที่แผงคอนโซลหน้า แผงประตู และคอนโซลกลาง สไตล์ของภายในบริเวณคอนโซลใช้แนวทางของการออกแบบ ทีเชพ-ไฮคอนโซล (T-Shape High Console) ด้วยการยกคอนโซลกลางให้สูงขึ้นเพิ่มความหรูหราและอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งาน ฟังก์ชั่นต่างๆ ทั้งเกียร์ ปุ่มปรับเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (เฉพาะรุ่น GT- Premium) และปุ่มเบรกมือไฟฟ้า (ครั้งแรกที่ติดตั้งในรถยนต์ Mitsubishi)

Mitsubishi

Mitsubishi

Mitsubishi


พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ 4 ก้าน ปรับตำแหน่งใกล้ไกล สูงต่ำได้ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ บนพวงมาลัยขณะที่มาตรวัดความเร็วและความเร็วรอบสามารถอ่านค่าต่างๆ ได้อย่างชัดเจน พร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ (Multi-information display) ที่แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย เช่น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง รวมถึงแสดงการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในสภาพพื้นผิวถนนที่แตกต่างกันเมื่อเลือกโหมดการขับขี่แบบออฟโรด

เบาะนั่งแบบใหม่ (ergo seat design) นั่งสบายโอบรับกับสรีระของผู้นั่ง เบาะคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทางใช้การปรับเบาะคู่หน้าด้วยระบบไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่สองสามารถแยกพับแบบ 60:40 พนักพิงสามารถปรับเอนและพับไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน ส่วนเบาะนั่งแถวที่สามสามารถแยกพับให้ราบไปกับพื้นห้องโดยสารเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น


Mitsubishi


ขนาดตัวถังใหม่พร้อมการปรับระบบช่วงล่างใหม่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพของการขับขี่ New Pajero Sport รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2015 ใช้การออกแบบจุดยึดตัวถังใหญ่ขึ้น ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ทั้งยังช่วยให้การควบคุมรถทำได้ดีขึ้น เพิ่มอุปกรณ์ซับเสียงตามจุดต่างๆ ภายในห้องโดยสาร และเพิ่มฉนวนเก็บเสียง วัสดุดูดซับเสียงและลดการสั่นสะเทือนในส่วนต่างๆ ที่สำคัญของเครื่องยนต์ ทำให้ได้มาซึ่งห้องโดยสารที่เงียบที่ขึ้น ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยส์ปริงและเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบทรีลิงค์ ทอล์คอาร์ม พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงและเหล็กกันสะบัดเพลาหลัง โดยการปรับตั้งค่าสปริงและโช้คอัพใหม่ทั้งหน้าและหลังช่วยเพิ่มการทรงตัวเมื่อเข้าโค้งและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่

Mitsubishi


New Pajero Sport วางเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4N15 แบบ 4 สูบ ไมเวค คลีนดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน พร้อมการฉีดน้ำมันด้วยอัตราส่วนกำลังอัดต่ำที่ตัวเลข 15.5:1 โดยให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบต่อนาที เครื่องยนต์แบบอะลูมินัม อัลลอย บล็อก (Aluminum Alloy Block) มีน้ำหนักเบา ประสานการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีด ทำให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นประมาณ 17% เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา และปล่อยค่ามลพิษที่ต่ำกว่า 200 กรัม / กิโลเมตร ภายใต้โครงสร้างภาษีใหม่ที่จะประกาศใช้ในเดือนมกราคม 2559 นี้


Mitsubishi


ระบบช่วยควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก (Idle neutral control) เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์และลดการสูญเสียเชื้อเพลิงในขณะรถหยุดนิ่งเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง “D” ท่ามกลางสภาพการจราจรที่แออัดส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่และลดการสึกหรอของระบบเกียร์ช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานขึ้น พร้อมด้วยระบบ G-SENSOR ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบ Super Select 4WD–II ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc เมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดได้ตามความต้องการและง่ายขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า


Mitsubishi


Mitsubishi


Mitsubishi


โหมดขับเคลื่อนแบบออฟโรด ในรุ่น GT-Premium ที่สามารถเลือกการขับขี่เพื่อรองรับสภาพเส้นทางออฟโรดได้ถึง 4 รูปแบบ (ครั้งแรกในมิตซูบิชิ) โดยจะสัมพันธ์กับการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน และเบรกทำให้สามารถขับเคลื่อนผ่านสภาพเส้นทางต่างๆ ไปได้
• GRAVEL เหมาะสำหรับขับขี่บนถนนลูกรังที่มีกรวดและดิน
• MUD/SNOW เหมาะสำหรับขับขี่ในบริเวณที่เป็นโคลนหรือหิมะหนา
• SAND เหมาะสำหรับขับขี่ในบริเวณที่เป็นทรายละเอียด
• ROCK เหมาะสำหรับขับขี่บนถนนที่พื้นผิวขรุขระเช่นมีหินมากหรือล้อลอยจากพื้น

- ระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบช่วยเสริมแรงเบรก (BA) รวมไปถึงระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (Brake Override System) ทำให้เบรกได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น

- ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS : Emergency Stop Signal System) จะทำงานเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกอย่างกะทันหัน หรือเมื่อระบบ ABS ทำงาน โดยไฟฉุกเฉินจะกะพริบต่อเนื่องจนกว่าจะปล่อยเบรกหรือรถหยุดสนิทเพื่อแจ้งให้รถคันหลังทราบ

- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA : Hill Start Assist) ป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง

- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC : Hill Descent Control) ช่วยรักษาระดับความเร็วของรถด้วยการควบคุมการเบรกให้สอดคล้องกับสภาพการขับขี่เมื่อต้องขับขี่ผ่านเส้นทางแบบออฟโรด และลงทางลาดชัน หรือทางลาดลื่น โดยระบบจะทำงานเมื่ออยู่ในช่วงความเร็ว 2-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เฉพาะรุ่น GT- Premium)

- เบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าติดตั้งบริเวณคอนโซลกลางสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน

- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ( ASTC : Active Stability & Traction Control)

- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM-Forward Collision Mitigation System) จะทำงานโดยใช้เรดาร์ประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนเพื่อให้เบรกรถ พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และเมื่อความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. ระบบช่วยเบรกจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อพบว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน เพื่อบรรเทาความเสียหายจากการชน (เฉพาะรุ่น GT และ GT-Premium )

- กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ (Multi-around Monitor) ทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพได้รอบตัวรถ เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

- ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS-Ultrasonic misacceleration Mitigation System) ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าโซนิคตรวจจับวัตถุด้านหน้าหรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่เกียร์อยู่ตำแหน่ง "D" หรือ "R" หากมีการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ไว้ประมาณ 5 วินาที ทั้งนี้ระบบจะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม. เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดจากการชน

- ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW - Blind Spot Warning) ทำงานโดยการใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณมุมกันชนทั้ง 4 ด้าน โดยระบบจะส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตาซึ่งไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง ในขณะเดียวกันเมื่อเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนพร้อมสัญญาณเตือนไฟกะพริบบนกระจกมองข้าง ทั้งนี้ระบบจะทำงานที่ความเร็ว 20 - 140 กม./ชม. ในระยะไม่เกิน 3 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนช่องจราจร (เฉพาะรุ่น GT-Premium )

- ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS สำหรับทุกรุ่น โดยในรุ่น GT-Premium มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS โดยทำงานร่วมกันกับระบบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทางพร้อมระบบผ่อนแรงโนมัติ ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ถุงลมนิรภัยหัวเข่าด้านคนขับและม่านถุงลมนิรภัย

New Pajero Sport รุ่นใหม่ล่าสุดประจำปี 2015 ยัดล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว สีทูโทนสำหรับรุ่น GT- Premium และสีเงินสำหรับรุ่น GT และรุ่น GLS- LTD

Mitsubishi New Pajero Sport 2015 มี 5 สีให้เลือก ได้แก่
สีเงิน (Sterling Silver)
สีขาวมุก (White Pearl)
สีเทาไทเทเนียม (Titanium Grey Metallic)
สีดำ (Black Mica)
สีน้ำตาล (Deep Bronze Metallic)

พบกับ New Pajero Sport 2015 ในงาน มหกรรมยานยนต์เพื่อขายแห่งชาติ Bangkok International Grand Motor Sale 2015 (BIG Motor Sale ระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา และที่โชว์รูมรถยนต์ Mitsubishi 220 แห่งทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้.

รุ่นและราคาในช่วงแนะนำ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2558
GT- Premium (4WD) 1,450,000 บาท เหลือ 1,399,000 บาท วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2558
GT- Premium (2WD) 1,250,000 บาท
GLS-LTD (2WD) 1,138,000 บาท
อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom


ขอขอบคุณเครดิต : http://www.thairath.co.th/content/515527

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น