Pocket WiFi

Pocket WiFi
Pocket WiFi แชร์เน็ทแรงได้ทุกที่ รายรื่นไม่มีสะดุด

เครื่องวัดความดัน

        เครื่องวัดความดัน

วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2558

ความดันโลหิตสูง... ทำไมต้องมองข้ามไม่รีบรักษา...

เครื่องวัดความดัน
เครื่องวัดความดัน

ความดันโลหิตสูง...ทำไมไม่ควรมองข้ามต้องรีบรักษา
ความดันโลหิตสูง คือ ภาวะที่แรงดันในหลอดเลือดแดงสูง สามารถเช็คจาก เครื่องวัดความดัน ซึ่งในระยะยาวจะทำให้เกิดความเสียหายแก่อวัยวะหลายระบบในร่างกายซึ่งค่าความดันโลหิตมีสองค่าคือตัวบน (Systolic)เป็นความดันโลหิตในหลอดเลือดแดงขณะที่หัวใจบีบเลือดออกไปสู่ระบบไหลเวียนของโลหิตและตัวล่าง (Diastolic)เป็นความดันของหลอดเลือดแดงขนาดที่หัวใจคลายตัว ค่าความดันปกติในปัจจุบันถือเอาค่าตัวบน ไม่เกิน 140 มิลลิเมตรปรอท และค่าตัวล่างไม่เกิน 90 มิลลิเมตรปรอท


ถ้าความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 มม.ปรอท ในระยะยาวจะทำให้เกิดโรคแทรกได้ดังนี้
หลอดเลือดแดงแข็งและตีบตันในอวัยวะต่างๆได้ทั้วร่างกาย เช่น
- หลอดเลือดแดงในหัวใจตีบตันทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและหัวใจวายได้
- หลอดเลือดแดงในหัวใจตีบตันทำให้สมองขาดเลือด,เนื้อสมองตาย
- บางที่เส้นเลือดในสมองแตกและเลือดออกในสมองทำให้เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตหรือเสียชีวิตได้
- หลอดเลือดแดงฝอยที่ไตแข็งทำใหไตเสื่อม และไตวายได้


ความดันโลหิตสูงทำไมต้องรีบรักษา
ความดันโลหิตสูงที่ถูกละเลยเป็นเวลานาน เป็นสาเหตุใหญ่ของโรคหัวใจและอัมพาตทำให้คนไข้พิการและเสียชีวิต เป็นจำนวนมาก การรักษาทานยาควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติสามารถลดอุบัติการณ์ของโรคแทรกซ้อนดังกล่าวได้มาก


ความดันโลหิตสูง คือ ฆาตกรเงียบ ( Silent Killer ) 
เนื่องจากความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่ไม่ทำให้มีอาการอะไร ถ้าไม่ใช้ เครื่องวัดความดัน วัดดูก็จะไม่ทราบว่ามีความดันสูงบางคนทราบว่าความดันสูง แต่ไม่มีอาการก็ละเลยไม่รักษาจนเกิดโรคแทรกซ้อนทำให้พิการหรือเสียชีวิต ความดันโลหิตสูงจึงได้ชื่อว่าเป็นฆาตกรเงียบ( Silent Killer )


ความดันโลหิตสูง : มีสาเหตุจากอะไรรักษาให้หายได้ไหม
ความดันโลหิตสูงส่วนใหญ่ (กว่า 90%)ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงส่วนหนึ่งอาจเป็นจากพันธุกรรมส่วนหนึ่งอาจเกิดจากอาหารและสิ่งแวดล้อมพวกนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ควบคุมได้โดยการทานยาเป็นประจำ
มีคนไข้จำนวนน้อย ราว 5% ที่มีความดันโลหิตสูงเนื่องจากโรคอื่นเช่น เนื้องอกของต่อมหมวก ซึ่งถ้าผ่าตัดออกความดันโลหิตก็จะเป็นปกติและหายขาดได้
จะเห็นว่าโรคความดันโลหิตส่วนใหญ่เป็นโรคประจำตัวไม่หายขาดจึงต้องรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการป้องกันโรคแทรกซ้อน


ความดันโลหิตสูง : รักษาอย่างไร
การรักษาขั้นแรกเลย คือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการดำรงชีวิต เช่น
- ลดอาหารเค็ม
-ออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3ครั้ง,ครั้งละ 20 นาที
-ควบคุมน้ำหนักตัวอย่างให้อ้วน
-งดบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้หลอดเลือดแดงตีบตัน
คนที่มีความดันสูงเล็กน้อย และตั้งใจเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมดังกล่าวอาจควบคุมความดันได้โดยไม่ต้องทานยาแต่ถ้าความดันสูงมาก มาตรการดังกล่าวอาจไม่เพียงพอที่จะควบคุมความดันได้ จึงจำเป็นต้องทานยาควบคู่ไปด้วยซึ่งโรคเบาหวานและไขมันในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้หลอดเลือดแดงอุดตัน ต้องรักษาควบคุมน้ำตาลและไขมันในเลือดให้ดีด้วย


ความดันโลหิตสูง : ทานยาอะไรดี
ปัจจุบันมียาควบคุมความดันออกมามากมายหลายชนิดต่าง ๆ ไม่เหมือนกันบางทีแพทย์ต้องปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน บางคนทานยาครึ่งเม็ดความดันก็ลงดีแต่บางคนต้องทานหลายชนิดจึงควบคุมความดันได้


เครื่องวัดความดัน
เครื่องวัดความดัน


ทำอย่างไรจึงจะทราบว่าความดันปกติดีแล้ว
ต้องใช้ เครื่องวัดความดัน วัดความดันเพียงอย่างเดียวจะใช้ความรู้สึก เช่นอาการปวดหัวไม่ได้ การมาพบแพทย์และใช้ เครื่องวัดความดัน วัดความดันสอง–สามเดือนครั้งไม่พอควรใช้ เครื่องวัดความดัน วัดความดันเองที่บ้านเป็นระยะ ๆ เครื่องวัดความดันระบบดิจิตอลที่เชื่อถือได้ วัดได้ใกล้เคียงกับการวัดด้วยหูฟังและปรอท


ทานยาลดความดันต่อเนื่องนาน ๆ แล้วทำให้เป็นโรคไตหรือไม่
ยาลดความดันส่วนใหญ่ออกฤทธิ์สั้นและไม่สะสมในร่างกายไม่ทำให้เป็น
โรคไต แต่ความดันโลหิตสูงที่ไม่ได้การตรวจรักษาอาจทำให้ไตเสื่อมและวายได้และอาจเกิดโรคแทรกซ้อน คือ
- หลอดเลือดแดงเล็กในตาแข็งและตีบ อาจมีเลือดออกที่จอภาพและประสาทตาทำให้ตามัวหรือบอดได้
- หลอดเลือดแดงที่ไม่เปลี่ยนแขนขาตีบตันทำให้มือเท้าขาดเลือดและเน่าได้
- หลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องอกและช่องท้องโป่งพองและแตกได้ ทำให้เสียชีวิตทันที

จะเห็นได้ว่าโรคความดันโลหิตสูงอาจดูเหมือนไม่มีอันตรายมาก แต่ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้และไม่ค่อยมั่นตรวจวัดความดันโลหิตด้วย เครื่องวัดความดัน อย่างสม่ำเสมอก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=ramtalk&date=18-12-2012&group=1&gblog=194

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น