Pocket WiFi

Pocket WiFi
Pocket WiFi แชร์เน็ทแรงได้ทุกที่ รายรื่นไม่มีสะดุด

เครื่องวัดความดัน

        เครื่องวัดความดัน

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

โรคความดันโลหิตสูง

เครื่องวัดความดัน
เครื่องวัดความดัน

             จากสถิติในประเทศไทย ปี 2555 คนไทยเสียชีวิตจากโรคนี้เป็นอันดับ 2 เพราะไม่ได้ซื้อ เครื่องวัดความดัน ประจำบ้านไว้ตรวจเช็คโรคนี้ส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุ โรคหลอดเลือด-แดงแข็ง  คอเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง และโรคไต โรคความดันโลหิตสูงยังเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจ   โรคอัมพฤกษ์-อัมพาต  โรคความดันโลหิตสูงเป็นภัยเงียบที่คุกคามชีวิต เนื่องจากไม่มีอาการเตือน เราจะทราบว่าเป็นหรือไม่ต้อง วัดค่าความดันโลหิตในช่วงเวลาพักผ่อน

            ค่าความดันโลหิต คนปกติจะมีค่าไม่เกิน 120/80 มิลลิเมตรปรอท
            ความดันตัวบน     ค่าอยู่ที่                   100-140    มิลลิเมตรปรอท (ซิสโทลิก)
            ความดันตัวล่าง     ค่าอยู่ที่                     60-90      มิลลิเมตรปรอท (ไดแอสโทลิก)

            ถ้าค่าความดันโลหิตเกิน 140 และ 90 จัดว่าความดันโลหิตสูง โดยค่าด้านบนนี้สามารถดูได้บน เครื่องวัดความดัน

อาการ   ผู้มีความดันโลหิตสูงมักจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดมึนงง ปวดมากเวลาถ่ายอุจจาระ เหนื่อยง่าย ถ้าเป็นมากจะคลื่นไส้  อาเจียน เลือดกำเดาไหล ตามัว แน่นหน้าอก หายใจหอบ

            การรักษาปัจจุบัน แพทย์จะจ่ายยาลดความดันโลหิตให้แก่คนไข้ และต้องกินยาลดความดันไปตลอด ระหว่างนั้นก็จะหมั่นตรวจเช็คด้วย เครื่องวัดความดัน ซึ่งบางครั้งต้องเพิ่มปริมาณยามากขึ้นถึงจะลดความดันโลหิตสูงได้ การใช้ยาในการลดความดันโลหิตสูงมีผลข้างเคียงมากมาย เช่น ผลทำลายตับ ไต ต่อมหมวกไต และเสื่อมสมรรถนะทางเพศ ถึงขึ้นร้ายแรงคือฟอกไต

            ก่อนอื่นต้องหาสาเหตุให้พบว่าไตมีปัญหาหรือไม่ หรือเกิดจากเบาหวาน การลดความอ้วน เครียด หลอดเลือดอุดตัน คอเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง หรือป่วยเป็นโรคหัวใจ ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน

            ผู้ป่วยเคยตั้งคำถามๆ ตัวเองหรือไม่กินยามากี่ปี เพิ่มปริมาณยาไหม? เพิ่มตัวยาอื่นอีกหรือไม่ ร่างกายเป็นอย่างไร แล้วต้องกินยาไปตลอดหรือไม่ ทราบหรือไม่จะมีผลข้างเคียงตามมาอย่างไร แท้จริงแล้วการกินยาโดยไม่แก้ไขปรับเปลี่ยนอาหารการกิน และความเคยชินในชีวิตประจำวัน ก็ไม่สามารถแก้ไขโรคความดันโลหิตสูงนี้ได้ การใช้หลักผสมผสานโดยการใช้ยากับหลักโภชนาการ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แล้วค่อยๆ เลิกการใช้ยาได้เอง


อาหารที่ควรงดเว้นหรือหลีกเลี่ยง


  • ลดเกลือ (โซเดียม) เพราะโซเดียมทำหน้าที่ควบคุมการกระจายตัวของน้ำในส่วนต่างๆ ของร่างกาย และหากมีโซเดียมมากเกินไปจะทำให้เซลล์เกิดการบวมน้ำ หรืออาการบวมของเซลล์ โดยเฉพาะไตจะต้องทำงานหนักมาก ที่จะขับน้ำส่วนเกินออกไป แล้วยังมีโซเดียมแฝง เช่น โมโนโซเดียมกลูตาเมต (ผงชูรส) โซเดียมไบคาบอเนท (ผงฟู) เครื่องปรุงรสแต่งอาหาร ซีอิ๊ว น้ำปลา ฯลฯ ล้วนมีโซเดียมสูง
  • ลดน้ำตาล เพราะทำให้เลือดเป็นกรด และเลือดข้น ไปที่ส่วนไหนของร่างกายจะเกิดการอักเสบบวมไต หลอดเลือดอุดตันได้
  • การปิ้ง ทอด ย่าง การผ่านความร้อนสูงเกิดอนุมูลอิสระในอาหารทั้งไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต
  • แป้งขัดขาวในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ซาลาเปา ปาท่องโก๋ เบเกอรี่ คุกกี้ เค้ก ฯลฯ จะใช้ไขมันไม่ดี เช่น เนยขาว ครีมเทียม เนยเทียม มาการีน สาเหตุของหลอดเลือดอุดตัน ถ้ากินควรเพียงอาทิตย์ละไม่เกิน 2 ครั้ง ๆ ละน้อยๆ
  • ถั่วลิสงและมะม่วงหิมพานต์ ถั่วพิตาชิโอ จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูงอย่างรวดเร็ว และไม่ลดลงหรือลงยาก
  • เนื้อสัตว์ ยกเว้นเนื้อปลา แต่ให้กินได้วันละไม่เกิน 100 กรัม ก็พอ
  • น้ำมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (โอเมก้า 6) มีอยู่ในน้ำมันทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด ทำให้เกิดความไม่สมดุลของโอเมก้า 3: โอเมก้า 6 เกิดการอักเสบในระดับเซลล์



อาหารจานโปรด

-               เซอราลี่ (คื่นช่ายยักษ์) 1 ต้น (ซอยเป็นแว่นเล็กๆ)
-               มะเขือเทศ                   5 ลูก (ฝานครึ่งลูก)
-               หอมหัวใหญ่               1 หัว (ฝานบางๆ )
-               ปลากระป๋อง               1 กระป๋อง
-               พริก                            2 เม็ด (ซอย)
-               มะนาว                        1 ลูก (บีบน้ำ)
นำยำคลุกเคล้ารวมกัน ทานกับข้าวกล้องหรือกับสลัดผักก็ได้
เซอราลี่ มีฤทธิ์ลดความดันโลหิตสูงดีที่สุด

มะเขือเทศ,หอมหัวใหญ่ มีสารต้านทานอนุมูลอิสระได้ดี
หลังจากทานอาหารได้ถูกหลักก็ลองใช้ เครื่องวัดความดัน ตรวจเช็คอีกทีจะพบว่าค่าความดันโลหิตของคุณลดลงไปแล้ว


อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thai-bio.com/article.php?news_id=N255600053

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น