วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558
เทคนิคลดพุงของสาวยุคใหม่ควบคุมอาหาร-ออกกำลังกาย ใช้ เครื่องวัดความดัน หมั่นตรวจเช็คสุขภาพ
คุณสาวๆ ฟังทางนี้!!! ล่าสุดมีวิธีลดพุงให้คุณแล้ว ทั้งปัญหา "หน้าท้องยื่น-พุงโต" ที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารผิดปกติ ทำให้เกิดการสะสมไขมันในช่องท้อง เกิดภาวะอ้วนลงพุง คนที่อ้วนลงพุงจะมีไขมันสะสมในช่องท้องปริมาณมาก (ไม่ใช่ไขมัน "หน้าท้อง" แต่เป็นไขมันที่อยู่ "ในช่องท้อง") ยิ่งมีไขมันสะสมในช่องท้องมากเท่าไรก็ยิ่งมีรอบพุงใหญ่ขึ้นๆ เกิด "ภาวะอ้วนลงพุง" ไขมันที่สะสมนี้จะแตกตัวเป็นกรดไขมันอิสระเข้าสู่ตับ กระตุ้นให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน และอินซูลินออกฤทธิ์ได้ไม่ดี ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น น้ำตาลในเลือดสูง ความดันโลหิตสูงโดยโรคนี้สามารถเช็คได้จาก เครื่องวัดความดัน โรคไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ตลอดจนมะเร็งบางชนิด โดยเอวที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 5 ซม. จะเพิ่มโอกาสเกิดโรคเบาหวาน 3-5 เท่า ดังนั้น "ยิ่งพุงใหญ่เท่าไหร่ ยิ่งตายเร็วเท่านั้น"
เภสัชกรเศกสุข เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดบริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ขยายความให้ฟังถึง "ภาวะอ้วนลงพุง" ว่า "ถ้าเป็นผู้ชายวัดรอบเอวได้มากกว่า 90 ซม. ส่วนผู้หญิงวัดรอบเอวได้มากกว่า 80 ซม. บวกกับมีปัจจัยเสี่ยงอีก 2 ใน 4 อย่างต่อไปนี้ 1.ความดันโลหิตสูงกว่า 130/85 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป 2.น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร สูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป 3.ระดับไขมัน ไตรกลีเซอไรด์สูงกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป 4.ระดับไขมันเอชดีแอลคอเลสเตอรอลน้อยกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรในผู้ชาย และในผู้หญิงน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ในประเทศไทยพบภาวะอ้วนลงพุง หรือ metabolic syndrome ในผู้ชายร้อยละ 24 ขณะที่ผู้หญิงพบร้อยละ 34.2
ส่วนปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้ เช่น อายุมากขึ้น เป็นคนอ้วนมาก่อน มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน หรือมีความดันโลหิตสูงอยู่แล้ว ฯลฯ ดังนั้น เครื่องวัดความดัน จึงขาดไม่ได้ที่จะใช้ได้การตรวจสุขภาพอย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การดำเนินชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดน้ำหนักและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีที่จำเป็นและสำคัญที่สุดในการลดพุง ร่วมกับการรักษากลุ่มโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น ระดับน้ำตาลสูง ระดับไขมันผิดปกติ ความดันโลหิตสูง ฯลฯ เพื่อเป้าหมายให้ห่างไกลจากโรคเรื้อรังต่างๆ ข้างต้นที่จะตามมา
ดังนั้น คนที่มีพุงเกินมาตรฐานจึงควร รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ลดอาหารประเภทไขมันอิ่มตัวลง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน หนังสัตว์ เนย นม กุ้ง ปลาหมึก หอยนางรม น้ำมันจากสัตว์ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว ลดอาหารที่มีแป้งขัดขาว โดย รับประทานอาหารที่มีกากใยอาหารสูงแทน เช่น ธัญพืช ข้าวกล้อง ผัก พืชตระกูลถั่ว ลดอาหารเค็ม ทั้งนี้เพื่อช่วยลดความดันโลหิตจึงควรซื้อ เครื่องวัดความดัน ติดบ้านไว้ด้วย ลดความเสี่ยงต่อเส้นเลือดและไตถูกทำลาย เพิ่มชนิดอาหารที่ช่วยป้องกันโรคได้ ได้แก่ สารอาหารที่ช่วยลดไขมันในเลือด ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล สารอาหารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล เป็นต้น เช่น น้ำมันปลา โอเมกา 3, โอเมกา 6 แพลนท์ สเตอรอล, โคเอนไซม์ คิว10, วิตามินอี วิตามินบี เป็นต้น การลดน้ำหนักลงอย่างน้อยร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักตัว จะชะลอหรือลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ออกกำลังกายวันละ 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน จะช่วยลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ในกรณีที่เป็นโรคเหล่านี้อยู่แล้ว การออกกำลังกายจะช่วยให้การรักษาได้ผลดีขึ้น
เภสัชกรเศกสุขกล่าวต่อว่า " 'พุง' จะถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ซึ่งในแต่ละประเภทนั้นเกิดมาจากสาเหตุที่ต่างกัน และมีการวิธีที่ในการลดพุงที่แตกต่างกัน โดยหลักๆ นั้นก็มักจะต้องทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ซึ่งพุงแต่ละประเภทบ่งบอกถึงสุขภาพได้ดังนี้ 1.1 แบบ 'สแปร์ ไทร์' (The Spare Tire) พุงประเภทนี้มักจะมีอยู่ในกลุ่มคนทำงานที่ต้องนั่งทำงานตลอดวัน และรับประทานของหวานมากเกินไป ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้ก็อาจทำให้มีไขมันส่วนเกินสะสมที่ขาและสะโพกได้ สาเหตุก็เกิดจากการออกกำลังกายที่ไม่เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตจากแป้งขาว วิธีลดพุงประเภท 'สแปร์ ไทร์' (The Spare Tire) ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะน้ำตาลบริสุทธิ์จากแอลกอฮอล์จะเข้าไปหยุดระบบการเผาผลาญไขมันทุกชนิด ควรรับประทานอาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ อย่างเช่น ไข่ แซลมอนรมควัน ไก่ย่าง และผัก โอเมกา 3 จากปลาทะเล, อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง น้ำมันตับปลา อาหารเหล่านี้จะช่วยเผาผลาญไขมันช่วงท้อง ทำให้หน้าท้องแบนราบได้ดั่งใจ ออกกำลังด้วยการเดินเร็ว ท่าแยกแขนขา ท่าสควอช หรือท่ากระชับท้องแขนก็สามารถช่วยลดพุงชนิดได้ โดยไม่ต้องเข้าฟิตเนส
1.2 แบบ 'ลิตเติ้ลพุช' (The Little Pooch)พุงชนิดนี้มักจะเกิดในผู้หญิงที่ทำงานยุ่งตลอดเวลา แม้ว่าจะออกกำลังกายก็ตาม แต่การติดอยู่กับการรับประทานอาหารเดิมๆ การออกกำลังกายแบบเดิมๆ ถึงแม้ว่าจะทำให้ผอมลง แต่ก็ยังทิ้งเจ้าพุงประเภทนี้เอาไว้ให้ดูต่างหน้า จึงควรที่จะหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายด้วยวิธีการซิตอัพหรือการใช้เครื่องออกกำลังกายแบบ ab-rollers ซึ่งมันจะไปสร้างแรงดันที่บริเวณกล้ามเนื้อสะโพกและบริเวณหลังช่วงล่าง ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณยื่นออกมาเป็นพุงนั่นเอง วิธีลดพุงประเภท 'ลิตเติลพุช' ต้องจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบย่อยอาหารให้หมด ไม่ว่าจะเป็นอาการท้องอืด ท้องผูก ด้วยการทานอาหารที่มีโภชนาการที่ดีและไฟเบอร์ เพราะปัญหาเหล่านี้คือสาเหตุที่ทำให้พุงชนิดนี้ลดได้ยาก ควรรับประทานผักจำพวกผักใบเขียวและธัญพืชเพื่อให้ได้รับไฟเบอร์ที่เพียงพอ และที่สำคัญคุณออกกำลังกายด้วยท่าลันจ์ หรือท่าสควอช ก็ควรยกเวตควบคู่ไปด้วย การดื่มน้ำเยอะๆ และการรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย อย่างเช่น ผักสีเขียวหรือโปรตีนที่ย่อยง่าย อย่างเช่น ปลา หรือเนื้อไก่ก็สามารถช่วยลดพุงประเภทนี้ได้เช่นกัน
1.3 'สเทรสทัมมี' (The Stress Tummy) พุงประเภทนี้มักมีสาเหตุเกี่ยวข้องกับปัญหาในระบบทางเดินอาหาร อย่างเช่น ภาวะลำไส้แปรปรวน ซึ่งจะทำให้เกิดอาการท้องอืดและทำให้ท้องของคุณดูใหญ่ขึ้น คุณสามารถเช็กได้ว่าพุงของคุณเป็นประเภทนี้หรือไม่ด้วยการจับบริเวณด้านหน้าของกระบังลมและบริเวณสะดือ ถ้าหากใครที่มีพุงประเภทนี้ต้องทานอาหารให้ครบทุกมื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้า และหยุดการดื่มกาแฟมากเกินไป รวมทั้งเลิกทานอาหารฟาสต์ฟู้ดจะดีที่สุด วิธีลดพุงประเภท 'สเทรสทัมมี' (The Stress Tummy) เปลี่ยนนิสัยในการนอนให้เร็วขึ้น เพราะการพักผ่อนนอนหลับที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยสร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการควบคุมความอยากอาหารและระบบเผาผลาญอาหารได้ ลดความเครียดด้วยการฝึกหายใจลึกๆ การทำสมาธิ หรือการอาบน้ำนานๆ ก่อนเข้านอน เพื่อทำให้คุณหลับสบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังควรลดกาแฟให้เหลือเพียงวันละ 2 แก้ว ฝึกโยคะหรือเดินไกล จะช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันของคุณแข็งแรงขึ้น หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ซึ่งจะทำให้ฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น" เภสัชกรเศกสุข เกษมสุวรรณ กล่าวปิดท้าย
ขอขอบคุณเครดิต http://www.marketfree.info/p/4852/เครื่องวัดความดัน.html
ป้ายกำกับ:
เครื่องวัดความดัน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น