พทาเลท: การใช้สารที่ปลอดภัยกว่าแทนสารเคมีที่เป็นพิษในพลาสติกกับมนุษย์อาจจะเสี่ยงต่อโรคความดันก็เป็นไปได้ต้องหมั่นใช้ เครื่องวัดความดัน ในการตรวจเช็ค

ตามผลงานวิจัยล่าสุดจากศูนย์การแพทย์ NYU Langone ได้เปิดเผยว่า สารเคมีสองชนิดที่มีการใช้เพิ่มขึ้นในการผลิตพลาสติกสำหรับห่ออาหาร สบู่ เครื่องสำอางค์และภาชนะสำหรับอาหารแปรรูปนั้นได้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น ควรหมั่นตรวจเช็คด้วย เครื่องวัดความดัน อย่างสม่ำเสมอ

สารประกอบดังกล่าวได้แก่ ได-ไอโซโนนิลพทาเลท (di-isononyl phthalate, DINP) และได-ไอโซเดซิลพทาเลท (di-isodecyl phthalate, DIDP) ซึ่งจัดเป็นสารเคมีจำพวกพทาเลททั้งคู่ ในทางตรงกันข้ามสารเคมีทั้งสองนี้ได้ถูกนำมาใช้แทนสารเคมี di-2-ethylhexylphlatate, DEHP ซึ่งคณะวิจัยกลุ่มเดียวกันได้พิสูจน์แล้วว่ามันก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เหมือนกัน

Leonardo Trasande อาจารย์จาก NYU Langone ซึ่งเป็นหัวหน้าของคณะวิจัยได้กล่าวว่า “งานวิจัยของพวกเรากำลังให้ความสนใจมากขึ้นกับสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่อาจจะมีส่วนร่วมในการต่อต้านอินซูลิน ความดันโลหิตสูง และความผิดปกติของระบบการเผาผลาญอาหาร” ดังนั้นการทดลองนี้จึงควรใช้ เครื่องวัดความดัน ในการตรวจเช็คร่วมด้วย

ดร. Trasande ได้กล่าวถึงชุดโครงการวิจัยที่เชื่อกันว่าเป็นกลุ่มแรกที่ทดสอบความเสี่ยงในการใช้สารเคมีแทน DEHP ที่มีต่อสุขภาพ เมื่อเร็วๆนี้พวกเขาได้ตีพิมพ์ผลงานออนไลน์ไปเมื่อ 9 กรกฎาคม ในวารสาร Hypertension โดยนักวิจัยได้ใช้ เครื่องวัดความดัน ตรวจเช็ครายงานถึงความเกี่ยวเนื่องที่เด่นชัดระหว่างความดันโลหิตสูงกับระดับการใช้ DINP และ DIDP ในงานวิจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาได้กล่าวถึงการเพิ่มปริมาณการใช้พทาเลทมากขึ้นทุกๆ 10 เท่า มันจะทำให้ความดันโลหิตที่วัดจากความดันปรอทสูงขึ้น 1.1 มิลลิเมตร

ในการศึกษาช่วงแรกๆ ซึ่งถูกตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Clinical Endocrinology and Metabolism คณะวิจัยกลุ่มเดียวกันจาก NYU ได้พบความเชื่อมโยงระหว่างความเข้มข้นของ DINP และ DIDP และความต้านทานการหลั่งอินซูลินเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งมันเป็นขั้นเริ่มต้นของโรคเบาหวาน หนึ่งในสามของวัยรุ่นที่มีระดับ DINP สูงที่สุดนั้นจะมีความต้านทานอินซูลินเพิ่มขึ้นมากที่สุดด้วย ในขณะที่กลุ่มที่มีความเข้มข้นน้อยที่สุดจะมีเพียง 1 ใน 4 ที่พบความต้านทานอินซูลิน

แต่เดิม DEHP ถูกใช้เป็นสารเสริมสภาพความเป็นพลาสติกและเป็นสารต้องห้ามในปี 2004 ทั่วทั้งยุโรป หลังจากที่มีคณะวิจัยจากหลายสถาบันได้พบความเกี่ยวข้องกันระหว่างสารเสริมสภาพความเป็นพลาสติกและผลกระทบที่ถูกคาดการณ์เกี่ยวกับสุขภาพของมนุษย์ ในสหรัฐอเมริกาผู้ผลิตได้สมัคใจที่จะใช้ DINP และ DIDP แทน DEHP เป็นเวลากว่าศตวรรษมาแล้ว แต่ในปี 2013 กลุ่มวิจัยของ Trasande ได้ทำการยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างการใช้ DEHP และความดันโลหิตสูงในชาวอเมริกัน

สำหรับงานวิจัยชิ้นใหม่ คณะของ NYU ได้ศึกษาตัวอย่างเลือดและผลวิเคราะห์ปัสสาวะจากอาสาสมัครจาก National Health และ Nutrition ExaminationSurvey ตั้งแต่ปี 1999 ที่รู้จักกันดีในชื่อของ NHANES ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความถี่และปัจจัยเสี่ยงของโรคหลักๆที่เกิดขึ้นในรอบปีจากอาสาสมัคร 5,000 คน บางส่วนของงานวิจัยของ NYU Langone ได้ตรวจตัวอย่างเลือดจากกลุ่มประชากรที่หลากหลายเช่นเด็กเล็ก 356 คน วัยรุ่นอายุ 12-19 ปี เป็นต้น และได้ทำการประเมินตรวจหาปริมาณพทาเลทและกลูโคสจากตัวอย่างปัสสาวะ

ตัวอย่างเลือดและปัสสาวะที่ใช้ในการศึกษานี้ได้จากตัวอย่างที่เก็บโดยใช้ เครื่องวัดความดัน ตรวจเช็คในระหว่างปี 2008-2012 พร้อมทั้งการตรวจวัดความดันโลหิตของอาสาสมัตรด้วย เครื่องวัดความดัน ไปพร้อมๆกัน นอกจากนี้นักวิจัยยังได้วิเคราะห์ปัจจัยของอาหาร การออกกำลังกาย เพศ เชื้อชาติ รายได้และปัจจัยอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งอินซูลินและความดันโลหิตสูง

Trasande ได้กล่าวว่า “การเลือกใช้ DIDP และ DINP รวมไปถึงกระดาษเคลือบไขและห่ออะลูมิเนียมแทน เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารสดที่ไม่ได้ถูกบรรจุลงกระป๋องหรือบรรจุลงในพลาสติก โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลดปริมาณส่วนที่เหลือจากการแพร่กระจายพทาเลท” “การศึกษาของพวกเราได้เพิ่มความตระหนักถึงความจำเป็นในการทดสอบความเป็นพิษก่อนนำสารเคมีเหล่านั้นออกไปใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งมันไม่ได้อยู่ในกฎหมายหรือข้อบังคับในขณะนี้ (the 1976 Toxic Substances Control Act)”

Trasande ได้พูดถึงขั้นตอนที่ง่ายและปลอดภัย ซึ่งสมาชิกในครอบครัวสามารถนำไปใช้เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของพทาเลทได้ ซึ่งไม่ได้รวมถึงภาชนะบรรจุอาหารสำหรับอุ่นด้วยไมโครเวฟหรือห่อด้วยพลาสติกและการล้างภาชนะพลาสติกสำหรับใส่อาหารด้วยมือแทนการใช้เครื่องล้างจาน ซึ่งเป็นบริเวณที่สารเคมีทั้งหลายสามารถหลุดแยกออกมาปนเปื้อนลงในอาหารได้ เขาได้กล่าวว่าผู้คนสามารถหลีกเลี่ยงการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีสัญญาลักษณ์รีไซเคิลพลาสติก 3, 6, หรือ7 ที่ข้างใต้ภาชนะ ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีองค์ประกอบของพทาเลทอยู่

Trasande ได้กล่าวถึงคณะวิจัยว่า พวกเขากำลังวางแผนที่จะศึกษาผลกระทบในระยะยาวของการแพร่กระจายของสารเคมีเหล่านี้ที่มีต่อสตรีมีครรภ์และเด็กทารกหรือเด็กเล็ก ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพในลักษณะที่แตกต่างออกไปหรือมีผลตกค้างในระยะยาวที่นานกว่า


ขอขอบคุณเครดิต http://www.vcharkarn.com/vnews/502892