Pocket WiFi

Pocket WiFi
Pocket WiFi แชร์เน็ทแรงได้ทุกที่ รายรื่นไม่มีสะดุด

เครื่องวัดความดัน

        เครื่องวัดความดัน

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สุดช็อค!! ผู้ก่อการร้าย โศกนาฏกรรม ปารีส แท้จริงก็เคยเป็นเด็กเรียนดีมาก่อน

โศกนาฏกรรม ปารีส


เปิดปูม8หัวโจกถล่มปารีส : บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์รายงาน

             เกือบครบรอบหนึ่งสัปดาห์เต็มนับตั้งแต่เกิด โศกนาฏกรรม ปารีส จากการก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งเกิดเหตุกราดยิงและจับตัวประกันในร้านอาหาร เกิดเหตุลอบวางระเบิดที่สนามกีฬาสต๊าด เดอ ฟรองซ์ และเกิดเหตุก่อการร้ายที่โรงละครบาตาคลอง จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยราว 150 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อย ส่วนผู้ก่อการร้ายที่เป็นนักรบญิฮัดของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซีเรีย 5 คนได้ระเบิดตัวเองเพื่อทำลายหลักฐานต่างๆ หนีการจับกุมอีกอย่างน้อย 3 คน

             ทางการฝรั่งเศสและเบลเยียมซึ่งเพิ่งมีฉายาล่าสุดว่าเป็น "ชุมโจรก่อการร้าย” ใหญ่สุดในยุโรป ได้ร่วมมือกันตรวจค้นบ้านเรือนที่ต้องสงสัยและกวาดจับผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำเพื่อเค้นหาความจริงและร่องรอยของบรรดาหัวโจกอย่างน้อย 7 คนที่เป็นตัวการลงมือก่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้

             ซึ่งท้ายสุดทางการฝรั่งเศส-เบลเยียมก็ได้รายชื่อและปูมหลังของบรรดาหัวโจกก่อการร้าย โศกนาฏกรรม ปารีส ทั้ง 8 คน

             1.อับเดลฮามิด อับบาอูด ผู้บงการใหญ่
             ตอนนี้เริ่มเป็นที่รู้กันไปทั่วแม้ทางการจะยังไม่แถลงอย่างเป็นทางการว่าผู้วางแผนและตัวการใหญ่ในการก่อการร้าย โศกนาฏกรรม ปารีส ก็คือ อับเดลฮามิด อับบาอูด วัย 27 ปี เจ้าของฉายา “นักฆ่าสัตว์” ของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) หนึ่งในอาชญากรที่โลกต้องการตัวมากที่สุด และเชื่อว่าเป็นคนชักชวนญิฮัดหลายพันคนให้เดินทางไปร่วมรบที่ซีเรีย รวมไปถึง ยูเนส น้องชายซึ่งถือเป็นนักรบไอเอสที่อายุน้อยที่สุดแค่ 13 ปี

             อับบาอูด เป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวเบลเยียมเชื้อสายชาวโมร็อกโก เติบโตที่ย่านโมเลนเบค-แซงต์-ฌอง ถิ่นยากจนทางตะวันตกของกรุงบรัสเซลส์อันเป็นที่พำนักของผู้อพยพหลากหลายเชื้อชาติ เป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “รังโจร” หรือแหล่งซ่องสุมของบรรดามุสลิมสุดโต่งและเป็นแหล่งเกณฑ์นักรบต่างชาติเพื่อไปช่วยไอเอสรบที่อิรักและซีเรีย

             สมัยยังเด็ก อับบาอูดไม่เคยส่อแววแม้แต่น้อยว่าจะเป็นคนหัวรุนแรงมาก่อน แม้กระทั่งในช่วงที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงบรัสเซลส์ จนกระทั่งได้แอบหลบหนีไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย แล้วกลายเป็นสมาชิกหัวรุนแรงที่อุทิศตนเพื่อทำสงครามศักดิ์สิทธิ์หรือสงครามครูเสดกับเหล่านักรบครูเสดหรือพวกผิวขาว จนได้เป็นหัวหน้าหน่วยก่อการร้ายในเมืองแวร์วิเยร์ โดยมีส่วนช่วยจัดตั้งและสนับสนุนเครือข่ายก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งในเมืองนี้ และยังวางแผนจะสังหารตำรวจเบลเยียมหลายคนหลังโจมตีนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด ในกรุงปารีส ตามด้วยการถล่มซูเปอร์มาร์เก็ตของชาวยิวแห่งหนึ่ง

             อย่างไรก็ดี ตำรวจติดอาวุธได้บุกทลายเซฟเฮ้าส์ที่ซ่อนตัวของเขาเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา และสังหารนักรบญิฮัด 2 คน ส่วนอับบาอูดเผ่นหนีกลับไปกบดานอยู่ที่ซีเรียอีกครั้ง ในพื้นที่ใต้การยึดครองของไอเอส จนถึงขณะนี้ ตำรวจได้ออกหมายจับในฐานะมุสลิมสุดโต่ง ขณะที่ศาลเบลเยียมได้ตัดสินเมื่อเดือนกรกฎาคมให้จำคุก 20 ปี แม้จะไม่สามารถนำตัวเขามาขึ้นศาลเพื่อฟังคำตัดสินได้

             หน่วยข่าวกรองของฝรั่งเศสและเบลเยียมเพิ่งจะเปิดเผยว่าอับบาอูดอาจจะพัวพันกับแผนก่อการร้ายหลายครั้งที่ถูกสกัดไว้ได้ หนึ่งในนั้นคือการพยายามก่อเหตุนองเลือดบนขบวนรถไฟความเร็วสูงเที่ยวอัมสเตอร์ดัมสู่ปารีสผ่านเบลเยียม เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่ถูกวัยรุ่นอเมริกัน 3 คนขัดขวางไว้ได้ ในจำนวนนี้ 2 คนเป็นนายทหารนอกเวลาราชการ รวมถึงแผนโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่งย่านชานกรุงปารีส แต่คนร้ายเกิดพลาดทำกระสุนลั่นใส่ขาตัวเองแล้วยังมีหน้าโทรศัพท์แจ้งตำรวจ จนทำให้ตำรวจแกะรอยเลือดไปจนถึงรถยนต์แล้วพบอาวุธจำนวนมากซ่อนอยู่

             หนึ่งเดือนหลังจากนั้น เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารดาบิกภาคภาษาอังกฤษของกลุ่มไอเอสถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้นว่าตัวเองซึ่งมีชื่อจัดตั้งว่า อาบู อูมาร์ อัล บัลจิกิ พร้อมเพื่อน 2 คนได้แอบเดินทางกลับไปเบลเยียมเพื่อทำสงครามกับนักรบครูเสดที่ก่อสงครามกับมุสลิม ระหว่างทางก็ถูกตามล่าตลอดเวลา มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยถูกตำรวจคนหนึ่งค้นตัวเพราะสงสัยว่าอาจเป็นคนเดียวกับภาพนักรบไอเอสที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เป็นภาพของความโหดเหี้ยมเลือดเย็นของเขาขณะกำลังลำเลียงร่างไร้วิญญาณที่เต็มไปด้วยเลือดของเหยื่อที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมขึ้นรถกระบะและรถพ่วง แต่สุดท้ายตำรวจก็ปล่อยตัวโดยคิดว่าเป็นคนละคน

             อย่างไรก็ดี เขาต้องเสียเวลาหลายเดือนในการหาช่องทางเดินทางเข้าไปยุโรป จนในที่สุดก็สามารถกลับไปที่เบลเยียม โดยกบดานอยู่ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในแวร์วิเยร์ ระหว่างนั้นก็ได้รับอาวุธจำนวนมาก

             ช่วงนั้น ก็ได้ติดต่อใกล้ชิดกับ บราฮิม อับเดสลาม หนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่ยึดร้านอาหารแห่งหนึ่งในปารีส รวมทั้ง อายูบ เอล คัซซานี คนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีขบวนรถไฟเมื่อเดือนสิงหาคม ทั้งยังติดต่อกับ ซิด อาเหม็ด กูลัม นักศึกษาชาวฝรั่งเศสที่ถูกฟ้องในข้อหาฆาตกรรม พยายามฆาตกรรมและก่อการร้ายจาก แผนโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่งย่านชานกรุงปารีส จากเอกสารที่พบที่บ้านและในเครื่องคอมพิวเตอร์รวมทั้งบันทึกการโทรศัพท์ระบุว่ากูลัมได้ติดต่อกับชายคนหนึ่งในซีเรียที่พูดภาษาฝรั่งเศสซึ่งชักชวนให้เขาวางแผนโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่ง

             แต่ความที่เคยมีชื่อในแฟ้มประวัติของตำรวจมาก่อน ทำให้หน่วยข่าวกรองสามารถสืบเสาะพบร่องรอยของเขา ทหารและตำรวจเบลเยียมจึงได้ผนึกกำลังกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของฝรั่งเศสและเบลเยียมอีกกว่า 150 คน บุกททลายเซฟเฮ้าส์แห่งนั้นเมื่อเดือนมกราคม ผลการยิงปะทะกันนานราว 10 นาที ทำให้นักรบญิฮัดทั้ง 2 คนถูกยิงตาย ส่วนอับบาอูดหนีรอดไปได้และได้หลบหนีไปซีเรียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

             อย่างไรก็ดี จากเหตุยิงปะทะล่าสุดที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองแซง-เดอนี ทางตอนเหนือของกรุงปารีสเมื่อเช้าตรู่วันที่ 18 พฤศจิกายน ทำให้เชื่อว่าอับบาอูดอาจจะกบดานที่นี่พร้อมกับซาเลห์ อับเดสลาม ผู้ก่อการร้ายอีกคนหนึ่งที่กำลังหลบหนีการไล่ล่าอยู่

             2. โอมาร์ อิสมาเอล มอสเตฟาย
             โอมาร์ อิสมาเอล มอสเตฟาย วัย 29 ปี ผู้ก่อการร้ายชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ผู้ก่อการร้ายที่ระเบิดฆ่าตัวตายพร้อมเหยื่อบริสุทธิ์ 89 คนที่โรงละครบาตาคลอง เป็นผู้ก่อการร้ายคนแรกที่ตำรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือที่พบกลางเศษซากหักพังในงานคอนเสิร์ต

             จากหลักฐานพบว่าเขาเกิดวันที่ 21 พฤศจิกายน 2528 ในเขตยากจนชานกรุงปารีส มีพี่น้อง 6 คน เคยต้องคดีเล็กๆ น้อยๆ 8 คดีระหว่างปี 2547-2553 แต่ไม่เคยต้องโทษจำคุก แม้จะเคยเป็นเป้าหมายแรกที่จะถูกตำรวจกวาดล้างพวกหัวรุนแรงเมื่อปี 2553 ก็ตาม และเขาก็ไม่เคยถูกตั้งข้อหาว่าพัวพันกับกลุ่มก่อการร้าย

             ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานว่าเขาแอบหลบไปซีเรียเมื่อปีที่แล้ว โดยทางการตุรกีเผยว่าได้เคยขอให้ตำรวจฝรั่งเศสช่วยจับกุมเขาถึง 2 ครั้งเมื่อปลายปีที่แล้วและเมื่อกลางปีนี้ ในข้อหาต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายหลังเดินทางไปที่ตุรกีเมื่อปี 2556 แต่ทางการกลับไม่มีเอกสารว่าเขาเดินทางออกจากตุรกีเมื่อใด อย่างไรก็ดี ทางการฝรั่งเศสกลับไม่ใส่ใจกับคำขอร้องนี้

             โอมาร์ อิสมาเอล มอสเตฟาย มีลูกสาว 1 คนเกิดเมื่อปี 2553 ครอบครัวของเขาที่ปารีสซึ่งได้ตัดขาดกับโอมาร์มานานหลายปีเชื่อว่าเขาเดินทางกลับไปอยู่กับครอบครัวที่แอลจีเรีย โดยหารู้ไม่ว่าได้กบดานอยู่ใกล้ๆ กันนี้เอง


             3. ซามี อามิมัวร์ จากชานกรุงปารีส มือระเบิดฆ่าตัวตายที่บาตาคลอง
             ซามี อามิมัวร์ ชาวฝรั่งเศสวัย 28 ปี ซึ่งมีถิ่นพำนักทางตะวันออกเฉียงเหนือของชานกรุงปารีส เป็นมือระเบิดพลีชีพคนที่ 2 กลางงานคอนเสิร์ตที่บาตาคลอง

             ชื่อของเขาปรากฏในแฟ้มตำรวจมื่อเดือนตุลาคม 2555 ตอนที่ถูกตั้งข้อหาว่าสมคบคิดจะก่อการร้ายระหว่างพยายามจะหลบหนีไปเข้าร่วมกับกลุ่มอัล-ไกดาในเยเมน แต่ได้รับการประกันตัวออกมา อีกหนึ่งปีต่อมา เขาก็สามารถหลบหนีออกจากฝรั่งเศสไปเข้าร่วมกับไอเอสในซีเรีย ซึ่งผู้พิพากษาได้ออกหมายจับเขาไปทั่วโลก

             ในการก่อการร้ายครั้งนี้ มีชาวฝรั่งเศส 3 พี่น้องรวมอยู่ด้วย โดยทั้ง 3 คนได้โยกย้ายไปอยู่ที่ย่านโมเลนเบค อันเป็นถิ่นยากจนในบรัสเซลส์ที่ผู้อพยพอาศัยอยู่มาก ในบรรดาพี่น้องทั้ง 3 คนนี้ คนหนึ่งถูกจับกุม คนหนึ่งระเบิดฆ่าตัวตาย คนสุดท้ายถูกตำรวจออกหมายจับไปทั่วโลก

โศกนาฏกรรม ปารีส


             4. บราฮิมหรืออิบรอฮิม อับเดสลาม
             บราฮิม อับเดสลาม วัย 31 ปี ได้ระเบิดตัวเองดับอนาถที่โรงละครบาตาคลอง จากหลักฐานที่พบระบุว่าเกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2527 สื่อเนเธอร์แลนด์รายงานว่าเขาเคยเปิดบาร์แห่งหนึ่งในย่านโมเลนเบค แต่ถูกตำรวจสั่งปิดเนื่องจากปล่อยให้ลูกค้าหลายคนสูบกัญชา ชื่อของเขาปรากฏพร้อมกับชื่อของอับบาอูดในคดีที่ก่อเมื่อปี 2553 และ 2554

             ต้องสงสัยว่าเป็นคนเช่ารถสีดำจากเบลเยียมที่พยานเห็นระหว่างการโจมตีหลายจุดก่อนจะนำไปจอดทิ้งที่ชานกรุงปารีส ภายในมีอาวุธเพียบ


             5. ซาลาห์ หรือซาเลาะห์ อับเดสลาม กำลังหนีการตามล่าขณะตำรวจออกหมายจับ
             ซาลาห์ หรือซาเลาะห์ อับเดลสลาม วัย 26 ปี ที่ตำรวจกำลังเร่งไล่ล่าหลังจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญคนหนึ่ง เชื่อกันว่าเป็นผู้เช่ารถยนต์โฟล์คสวาเกน โปโล คันที่ถูกพบทิ้งไว้ใกล้ๆ กับโรงละครบาตาคลอง ว่ากันว่าตำรวจได้สั่งหยุดรถของเขาพร้อมกับชายอีก 2 คนใกล้ๆ พรมแดนเบลเยียม แต่หลังการตรวจค้นแล้ว ทั้ง 3 คนก็ได้รับการปล่อยตัว กว่าตำรวจจะฉุกคิดได้ ทั้ง 3 คนก็หนีลอยนวลแล้ว ตำรวจได้แต่แก้เกี้ยวด้วยการออกหมายจับไปทั่วโลก โดยระบุว่าเขาเป็นคนที่มีอันตรายมาก พร้อมกับเตือนประชาชนอย่าได้เข้าไปแทรกแซงโดยตรง ถ้าพบเห็นชายผู้นี้


             6. โมฮัมเหม็ด อับเดสลาม
             โมฮัมเหม็ด อับเดสลาม ถูกตำรวจเบลเยียมจับกุมที่ย่านโมเลนเบค ในบรัสเซลส์เพื่อสอบปากคำแต่ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ โดยทนายเผยว่าโมฮัมเหม็ดมีข้ออ้างที่ฟังขึ้นว่าไม่ได้อยู่ในปารีสในช่วงเกิดเหตุ โศกนาฏกรรม ปารีส


             7. บิลัล ฮัดฟาย
             บิไล ฮัดฟาย ชาวฝรั่งเศสวัย 20 ปี ที่โยกย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เบลเยียม เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายอีกคนหนึ่งที่สนามกีฬาสต๊าด เดอ ฟรองซ์ อดีตเคยไปสู้รบร่วมกับไอเอสในซีเรียก่อนจะเดินทางกลับยุโรป


             8. อาเหม็ด อัล-โมฮัมหมัด
             อาเหม็ด อัลมูฮาเหม็ด วัย 25 ปีหนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่เสียชีวิตที่สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ตำรวจพยายามคลี่คลายปมปริศนาว่าตัวตนแท้จริงเป็นใคร เพราะจากพาสปอร์ตที่พบใกล้ศพของเขาชี้ชัดว่าเป็นพาสปอร์ตปลอมที่ทำขึ้นที่ซีเรีย ในพาสปอรฺ์ตระบุว่าเกิดที่เมืองอิดลิบในซีเรียเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2533 ได้เดินทางมาฝรั่งเศสในฐานะผู้อพยพผ่านกรีซหลังได้รับการช่วยเหลือจากเรือที่กำลังจมกลางทะเลเมดิเตอเรเนียนและขึ้นฝั่งที่เกาะเลรอสในกรีซเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม หลังจากได้ยื่นลงทะเบียนในฐานะผู้ลี้ภัย ก็ได้เดินทางต่อไปยังเซอร์เบีย และโครเอเชีย ก่อนมุ่งหน้าไปยังกรุงปารีส จากตั๋วเรือของกรีซระบุว่าเขามายุโรปพร้อมกับชายอีกคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า โมฮัมเหม็ด อัล มูฮาเหม็ด


            9. ฟาเบียง แคลง
             เป็นผู้ต้องสงสัยรายล่าสุดว่าอาจเกิดเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายครั้งนี้ เพราะจากคลิปเสียงที่ตำรวจถอดได้นั้นระบุว่าเป็นเสียงของ ฟาเบียง แคลง วัย 35 ปี นักรบญิฮัดผู้ชำนาญการของเครือข่ายอิสลามิสต์หัวรุนแรงในเมืองตูลูส ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุก 5 ปี เมื่อปี 2552 ในข้อหาเกณฑ์คนไปเป็นนักรบญิฮัด หลังจากนั้นได้หนีไปกบดานอยู่ที่ซีเรีย เชื่อว่ามีความใกล้ชิดกับโมฮัมเหม็ด เมราห์ ซึ่งก่อเหตุสังหารหมู่ 7 ศพเมื่อปี 2555 ในจำนวนนี้เป็นเด็กชาวยิว 3 คน


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.komchadluek.net/detail/20151119/217141.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น