Pocket WiFi

Pocket WiFi
Pocket WiFi แชร์เน็ทแรงได้ทุกที่ รายรื่นไม่มีสะดุด

เครื่องวัดความดัน

        เครื่องวัดความดัน

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

'เบลล่า'ส่งข้อความยินดี'เวียร์'งานยุ่งเจอกันน้อยลง

เบลล่า
เบลล่า

เบลล่า” ราณี แคมเปน เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “เวียร์” ศุกลวัฒน์ คณารศ เรียนจบป.โท แจงไม่ได้มีของขวัญพิเศษให้ เพราะช่วงนี้ค่อนข้างยุ่ง ไม่ค่อยได้เจอกัน

            ช่วงหลังงานยุ่งด้วยกันทั้งคู่ สำหรับนางเอกสาว “เบลล่า” ราณี กับ “เวียร์” ศุกลวัฒน์ ที่แม้ในงานรับปริญญาโทของพระเอกหนุ่ม เบลล่า จะไม่ได้ไป แต่ก็มีส่งข้อความแสดงไปแสดงความยินดี แต่หลายคนก็จับตามองว่า จะมีเซอร์ไพรส์พิเศษอะไรให้ไหม ได้เจอ เบลล่า ในงานรอบสื่อภาพยนตร์ “เกมล่าเกม ม็อกกิ้งเจย์ พาร์ท 2 (The Hunger games Mocking Jay Part 2)” เจ้าตัวเผยดังนี้

            “ได้ส่งข้อความไปแสดงความยินดี (จะมีของขวัญพิเศษมั้ย) เป็นข้อความได้ไหม ก็ส่งข้อความไปแสดงความยินดีไปแล้ว อาจจะไม่มีของ พี่เขาก็บอก ขอบคุณ คงไม่มีของอะไรหรอก (เวียร์เคยให้กระเป๋านะ) อันนั้นของฝาก นานๆ ที ส่วนเรื่องงานเลี้ยงฉลอง คงไม่ได้มี เพราะช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งอยู่ ก็ยังคุยกันอยู่ปกติ แต่ว่ายุ่งๆ หน่อยช่วงนี้ จะเปิดกล้องละคร 2 เรื่อง มีเพลิงบุญ กับ บุพเพสันนิวาส (คนจับตามองเพลิงบุญ เพราะได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่) สัญญาเลยว่าจะตั้งใจจะทำให้ดีมากๆ คือรอคอยวันเปิดกล้องเลย เพราะว่าได้เจอกับพี่ๆ ที่เรียกได้ว่า เป็นคนที่เราติดตามมาตั้งนานแล้ว ชื่นชอบพี่เขาอยู่แล้ว ในเรื่องพี่เจนี่ (เทียนโพธิ์สุวรรณ์) จะเป็นบทสวยแซบ ส่วนบทของเราจะเริ่มต้นจากการที่ไม่ทันคน เรียบร้อย จนเจอเรื่องราวต่างๆทำให้เข้มแข็งขึ้น รู้ทันคน (ได้เห็นกระแสเปรียบเทียบกับเจนี่มั้ย) อันนี้ไม่ได้เห็นกระแส แต่ว่าทางเราก็ทำการบ้านในส่วนของเรา แล้วก็อ่านบท เตรียมพร้อม ช่วงนี้ก็เลยไม่ค่อยได้เจอพี่เวียร์ ส่วนของ เบลล่า ยังเรียนโทอยู่อีก 1 ปีแน่ะ ส่วนละครที่รอออนแอร์มีอยู่ 2 เรื่อง คือ วิมานเมขลา อันนี้ใกล้ปิดกล้องแล้ว น่าจะได้ชมเร็วๆนี้ และปดิวรัดา เป็นต้นปีหน้า ก็หายไปประมาณ 2 ปี เพราะถ่าย 2 เรื่องนี้ น่าจะได้ดูติดๆกัน” เบลล่า ตอบ

            ล่าสุดเห็นลงรูปไปเที่ยวทะเลกับแก๊งที่ตอนนี้หลายคนตั้งชื่อให้ว่า “แองเจิ้ลเบบี้” มีรูปเซ็กซี่เล็กๆ เป็นอย่างไรบ้าง เบลล่า เผยว่า ไปเที่ยวกับแก๊งสาวๆ ในบ้าน ผู้จัดการเดียวกัน

           “ไปเที่ยว จ.กระบี่ กันมา สวยมาก เห็นคนแซวว่ารูปเยอะมาก แต่ว่ามันสวย จนมันอดถ่ายไม่ได้ ส่วนที่มีคนบอกว่าภาพเซ็กซี่ ไม่ๆ เรามองที่สถานที่ มองที่โอกาสด้วยมันเป็นชุดไปทะเล ไม่ได้ตั้งใจว่าจะเซ็กซี่หรืออะไรก็น่ารักตามวัยอะไรอย่างนี้หรือเปล่า อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าทะเลไทยมันสวยจริงๆ (มีคอมเม้นท์เรื่องสะโพก) อันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ก็ยอมรับเราเป็นคนมีสะโพก (ยิ้ม) ได้เห็นคอมเม้นต์แล้ว แต่ไม่ได้ซีเรียสอะไร” นางเอกสาวกล่าวปิดท้าย


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.komchadluek.net/detail/20151120/217200.html

วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

โรคความดันโลหิตต่ำ คืออะไร สาเหตุ อาการ วิธีรักษา และวิธีป้องกันโรคความดันโลหิตต่ำ

เครื่องวัดความดัน
เครื่องวัดความดัน


สำหรับโรคความดันโลหิตต่ำนั้นโดยทั่วไปผู้คนส่วนใหญ่มักมองข้าม เพราะจะให้ความสำคัญกับโรคความดันโลหิตสูงกันมากกว่า เนื่องจากคิดว่าอันตรายกว่าโรคความดันโลหิตต่ำ แถมคนส่วนใหญ่ก็มักเป็นโรความดันโลหิตสูง ทำให้หลายๆคนพุ่งเป้าเน้นไปที่โรคความดันโลหิตสูงกัน แต่สำหรับโรคความดันโลหิตต่ำนั้นก็เป็นภัยเงียบที่ร้ายแรงและอันตรายไม่แพ้ความดันโลหิตสูงเลยทีเดียว


โรคความดันโลหิตต่ำคืออะไร
โรคความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) คือ ภาวะที่ค่าความดันโลหิตต่ำกว่า 90 – 50 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งพบมากในผู้หญิงที่ร่างกายอ่อนแอหรือผู้สูงอายุที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมาก่อน และหากใครที่มีความดันโลหิตต่ำมากๆ จะส่งผลให้เลือดในร่างกายเกิดการไหลเวียนช้าลง ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ และเกิดลิ่มเลือดได้ง่ายทำให้บริเวณหลอดเลือดเกิดการอุดตันขึ้น

เครื่องวัดความดัน
หมั่นตรวจเช็คด้วย เครื่องวัดความดัน อย่างสม่ำเสมอ

สำหรับโรคความดันโลหิตต่ำนั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ ชนิดเรื้อรัง และชนิดเฉียบพลัน โดยความดันโลหิตต่ำชนิดเรื้อรังอาจเป็นมาแต่กำเนิดแบบไม่ทราบสาเหตุ หรือเกิดจากพันธุกรรม รวมทั้งการเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็วก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ตลอดจนการใช้ยาหรือเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ส่วนความดันโลหิตต่ำชนิดเฉียบพลันจะมีความดันลดลงอย่างรวดเร็วกว่าปกติ มักหน้ามืดหรือช็อกจนหมดสติ


สาเหตุของโรคความดันโลหิตต่ำ
สำหรับความดันโลหิตต่ำนี้มักมีสาเหตุจากหลายๆ ปัจจัย โดยความดันต่ำเกิดจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดแดงของปอด หรือลิ้นหัวใจทำงานผิดปกติเพราะอัตราการส่งเลือดออกจากหัวใจลดลง รวมทั้งหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ ตลอดจนภาวะขาดน้ำทำให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง หรือมีการขยายตัวของหลอดเลือดมากเกินปกติเนื่องจากโรคภูมิแพ้ ช็อกจากภาวะติดเชื้อ การใช้ยาบางชนิด และในหญิงตั้งครรภ์ หรือการอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัดๆ เป็นต้น

เครื่องวัดความดัน
ร่างกายขาดน้ำเป็นอีกสาเหตุของโรคความดันโลหิตต่ำ


อาการของโรคความดันโลหิตต่ำ
โดยทั่วไปผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำก็มักไม่มีอาการเช่นเดียวกับโรคความดันโลหิตสูง ส่วนในผู้ที่มีอาการก็เช่น จะรู้สึกเวียนศีรษะง่าย หรือหน้ามืดเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถจากท่าหนึ่งไปเป็นอีกท่าหนึ่ง และมักจะรู้สึกอ่อนเพลียง่ายแม้ว่าได้นอนเต็มอิ่มแล้วก็ตาม หรืออาจหูอื้อ ตาลาย ปวดศีรษะ หลัง หรือบั้นเอว สมองล้า ขี้ลืม ไม่มีสมาธิ และมือเท้าเย็น หรือชักหมดสติ และในบางคนที่มีอาการของโรคความดันโลหิตต่ำมากก็อาจถึงขึ้นเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปเลย

เครื่องวัดความดัน
ใช้ เครื่องวัดความดัน ตรวจร่างกายผู้ป่วย


การวินิจฉัยโรคความดันโลหิตต่ำ
เมื่อไปพบแพทย์แล้วแพทย์จะทำการวินิจฉัยโรคความดันโลหิตต่ำโดยการใช้ เครื่องวัดความดัน วัดความดันโลหิต ซักประวัติและอาการ รวมทั้งมองถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งอายุ โรคเรื้อรัง การเคยได้รับยาบางชนิด เช่น เบาหวาน หรือยาโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น และการขาดน้ำเนื่องจากอาเจียนรุนแรง หรือท้องเสีย จากนั้นก็อาจเจาะเลือดดูค่าของระดับน้ำตาลในเลือดในกรณีเป็นเบาหวาน หรือตรวจโดยคลื่นไฟฟ้าหัวใจกรณีสงสัยว่าเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นหลัก


การรักษาโรคความดันโลหิตต่ำ
สำหรับการรักษาโรคความดันโลหิตต่ำนั้น แพทย์จะช่วยเพิ่มระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติโดยรักษาตามอาการของสาเหตุที่เกิดโรคความดันโลหิตต่ำ อย่างภาวะขาดน้ำ แพทย์ก็จะรักษาโดยการให้น้ำและเกลือแร่ทางหลอดเลือดดำ หรือหากอยู่ในภาวะขาดเลือดเสียเลือดมากก็จะให้เลือดทดแทนที่เสียไป และเมื่อหลอดเลือดเกิดอาการขยายตัวผิดปกติ แพทย์ก็จะทำการรักษาโรคความดันโลหิตต่ำโดยการให้ยาเพิ่มความดันหรือเพิ่มการบีบตัวของหลอดเลือด ตลอดจนเป็นเบาหวานแพทย์ก็จะปรับยาเบาหวานให้แก่ผู้ป่วยโรคความดันต่ำนี้ เป็นต้น

เครื่องวัดความดัน
การรักษาโรคความดันโลหิตอาจต้องใช้ยาช่วย


การดูแลตนเองหลังการรักษาโรคความดันโลหิตต่ำ
หลังพบแพทย์ทำการรักษาเรียบร้อยแล้วควรปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด รับประทานยาต่างๆ อย่างถูกต้อง ดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้ว รู้จักเคลื่อนไหวร่างกายให้สม่ำเสมอบริหารร่างกายให้เป็นนะคะ โดยเฉพาะเวลาจะเปลี่ยนอิริยาบถไม่ว่าจะเป็นท่าใดก็แล้วแต่ให้ค่อยๆ ทำหรือเปลี่ยนอย่างช้าๆ ไม่ควรรีบเปลี่ยนอิริยาบถเพราะจะทำให้หน้ามืดเป็นลมล้มลงได้ง่ายๆ รวมทั้งไม่ยืนหรือนั่งไขว้ห้างเป็นเวลานาน ตลอดจนรับประทานอาหารในปริมาณพอเหมาะแก่ร่างกาย และหากอาการไม่ดีขึ้นหรือเกิดเจ็บแน่นหน้าอกขึ้นมาให้รีบกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอีกครั้งโดยเร็วนะคะ


การป้องกันโรคความดันโลหิตต่ำ
- ระมัดระวังในการใช้ยา หลีกเลี่ยงการซื้อยามารับประทานเอง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวันอย่างน้อยวันละประมาณ 6 – 8 แก้ว เป็นประจำสม่ำเสมอ
- ทำการรักษาโรคต่างๆ ที่เป็นสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะโรคความดันโลหิตต่ำ
- เปลี่ยนท่าหรืออิริยาบถต่างๆ ให้ช้าลง
- ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และเลือกประเภทการออกกำลังกายให้เหมาะสมแก่ร่างกายตนเอง
- รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่

เครื่องวัดความดัน
การดื่มน้ำให้เพียงพอ 6-8 แก้วต่อวัน จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตต่ำได้

ดังนั้น การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะการไม่มีโรค…เป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ ต่อให้มีเงินทองมากขนาดไหนหากร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยบ่อยก็คงไม่มีความสุข ฉะนั้นเราต้องรู้เท่าทันโรคต่างๆ ที่เกิดกับเราให้ดี หมั่นดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงไม่ให้โรคต่างๆเข้ามากล้ำกราย


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.xn--12cg1cxchd0a2gzc1c5d5a.net/โรคความดันโลหิตต่ำ/

By The Sea ณ ริมทะเล (ซับไทย)

By The Sea ณ ริมทะเล
ปกภาพยนต์ By The Sea ณ ริมทะเล

เรื่องย่อ By The Sea ณ ริมทะเล


By The Sea เป็นเรื่องราวของโรแลนด์ นักเขียนอเมริกัน และวาเนสซา ภรรยาของเขา ซึ่งความสัมพันธ์ทั้งคู่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ

พวกเขาเดินทางมาท่องเที่ยวที่รีสอร์ตริมทะเลในฝรั่งเศส ซึ่งมีความงดงามและเงียบสงบ และได้พบปะกับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกัน

รวมถึงผู้คนในท้องถิ่น ทำให้ทั้งคู่กลับมาใกล้ชิดกันมากขึ้นและคลายปัญหาบางอย่างในชีวิตคู่ได้

By The Sea ณ ริมทะเล
รูปจากในภาพยนต์ By The Sea ณ ริมทะเล

ผู้กำกับ : แองเจลิน่า โจลี่
นักแสดง : แบรด พิตต์, แองเจลิน่า โจลี่


By The Sea ณ ริมทะเล



คลิปตัวอย่างภาพยนต์ By The Sea ณ ริมทะเล ซับไทย



เข้าฉายวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนต์

ไม่อยากจากโลกไว ?? แนะคนไทยกินผัก-ผลไม้ ต้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง

เครื่องวัดความดัน

"กรมอนามัย" ห่วงคนไทย พบโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งความดัน โลหิตสูง ฯลฯ ส่วนหนึ่งมาจากบริโภคอาหารไม่ได้สัดส่วน -แนะ กินผักต่อมื้ออย่างน้อย 2 ทัพพี ควบคู่ผลไม้


วันนี้ ( 2 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งความดัน โลหิตสูง เบาหวาน โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด มะเร็ง สาเหตุหนึ่งเกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่ได้สัดส่วน พฤติกรรมการบริโภค ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจากรายงานการสำรวจการบริโภคอาหารของประชาชนไทย ในปี 2551-2552 พบว่าสถานการณ์การบริโภคผักและผลไม้คนไทยอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วงโดยรับประทานผักและผลไม้เพียงพอไม่ถึงครึ่ง หรือเพียง ร้อยละ 17.7 ลดลงจากร้อยละ21.9 ในปี 2546-2547 และภาคกลางบริโภคผักน้อยที่สุดร้อยละ 14.45 โดยโรคเรื้อรังที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม 4 โรคสำคัญในรอบ 5 ปี (2549-2553) พบผู้ป่วยกว่า 3 ล้านราย ซึ่งทุกโรคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อันดับหนึ่งคือความดันโลหิตสูงโดยเช็คได้จาก เครื่องวัดความดัน พบผู้ป่วย 1.7 ล้านราย อันดับสอง เบาหวานพบ 8.8 แสนราย อันดับสาม โรคหัวใจขาดเลือดพบ 1.7 ล้านราย และอันดับสี่ โรคหลอดเลือดสมองพบ 1.4 แสนราย


          ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไป ใน 1 วัน ควรกินผักให้ได้มื้อละอย่างน้อย 2 ทัพพี ควบคู่กับผลไม้ทุกมื้อเป็นประจำ โดยผักควรกินให้ครบ 5 สี ได้แก่ 1) สีเขียว ให้สารคลอโรฟีลล์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ขจัดฮอร์โมน เป็นสาเหตุของมะเร็งบางชนิด เช่น ผักบุ้ง ผักโขม ผักปวยเล้งผักกาดหอม ผักคะน้า แตงกวา 2) สีเหลือง ให้สารเบต้าแคโรทีน และฟลาโวนอยส์ ช่วยรักษาสุขภาพของหัวใจ หลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย บำรุงสายตา เช่น แครอท ฟักทอง มันเทศ 3) สีม่วง ให้สารแอนโทไซยานิน ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมองยับยั้งเชื้ออีโคไลในทางเดินอาหาร ซึ่งทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ เช่น กะหล่ำสีม่วง มะเขือม่วง ดอกอัญชัน 4) สีขาว ให้สารอะไลซิน สร้างเซลล์ให้แข็งแรง ยับยั้งการเกิดเนื้องอกช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมากต้านการอักเสบ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดปริมาณไขมันในเลือด ลดความดันโลหิตป้องกันเส้นเลือดอุดตัน รักษาระบบภูมิคุ้มกัน เช่น กระเทียม หัวไชเท้า ถั่วเหลือง และ 5) สีแดง มีสาร ไลโคพีน อยู่ในปริมาณสูง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก มีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอี 100 เท่า และมากกว่ากลูตาไธโอนถึง 125 เท่าสารไลโคพีนช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งปอด และยังช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งเยื่อบุมดลูก เช่น มะเขือเทศ หอมแดง พริกหวาน เป็นต้น


          "ทั้งนี้ ก่อนกินผักและผลไม้ทุกครั้ง ควรล้างด้วยน้ำสะอาด 1-2 ครั้ง เพื่อลดสารพิษและย่าฆ่าแมลงที่ตกค้าง จากนั้นแช่ผัก ผลไม้ในน้ำผสมเกลือ 2 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยตวงต่อน้ำ 4 ลิตร หรือน้ำผสมโซเดียม ไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 15-30 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าอีก 2 ครั้ง สำหรับผักบางชนิด เช่น คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว หากมีคราบขาวจับที่กาบใบหรือฝักมากเกินไปล้างน้ำหลายๆครั้ง และคลี่ใบถูหรือล้างด้วยการเปิดน้ำไหลผ่านผักสดอย่างน้อย 2 นาที ” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://social.tnews.co.th/content/104546/

KILL YOUR FRIENDS อยากดังต้องฆ่าเพื่อน (ซับไทย)

KILL YOUR FRIENDS อยากดังต้องฆ่าเพื่อน
ปกภาพยนต์ KILL YOUR FRIENDS อยากดังต้องฆ่าเพื่อน

เรื่องย่อ KILL YOUR FRIENDS อยากดังต้องฆ่าเพื่อน


สร้างจากนิยายขายดี เมื่อโปรดิวเซอร์เพลงหนุ่ม (ฮอลท์) ต้องดิ้นรนเพื่อรักษาหน้าที่การงานของตัวเอง ในโลกเพลงบริท-ป็อปที่มีการแข่งขันสูง เขาตัดสินใจทำทุกอย่างเพื่อที่จะหาเพลงฮิตติดชาร์ทให้ได้ ถึงแม้ว่ามันทำให้เขาต้องจัดการใครทุกคนที่ขวางทาง

KILL YOUR FRIENDS อยากดังต้องฆ่าเพื่อน
รูปจากในภาพยนต์ KILL YOUR FRIENDS อยากดังต้องฆ่าเพื่อน

ผู้กำกับ : Owen Harris
นักแสดง : นิโคลัส ฮอลท์, Ed Skrein


KILL YOUR FRIENDS อยากดังต้องฆ่าเพื่อน



คลิปตัวอย่างภาพยนต์ KILL YOUR FRIENDS อยากดังต้องฆ่าเพื่อน ซับไทย



เข้าฉายวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนต์

ความดันโลหิตสูง สะพานเชื่อมสู่โรคร้าย

เครื่องวัดความดัน

เมื่อปี 1999 องค์การอนามัยโลก กำหนดไว้ว่า ผู้ใดก็ตามที่ใช้ เครื่องวัดความดัน พบว่ามีความดันโลหิตวัดได้มากกว่า 140/90 มม.ปรอทถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง

สาเหตุของความดันโลหิตสูง มีหลายปัจจัยทั้งพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม เช่น การทำงานนั่งโต๊ะ ไม่ต้องออกแรง แถมเครียด ไม่มีเวลาออกกำลังกาย กินอาหารเค็มมัน กินผักผลไม้น้อย น้ำหนักตัวมาก และดื่มเหล้า โดยเฉพาะมีประวัติความดันโลหิตสูงในครอบครัวอยู่แล้ว
   
ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงอาจจะไม่มีอาการใดๆ เลย หรืออาจจะพบว่ามีอาการปวดศีรษะ มึนงง เวียนศีรษะ และเหนื่อยง่ายผิดปกติ อาจมีอาการแน่นหน้าอกหรือนอนไม่หลับ


เครื่องวัดความดัน


ภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูง โดยตรง ได้แก่ภาวะหัวใจวายหรือหลอดเลือดในสมองแตก ภาวะแทรกซ้อนจากหลอดเลือดแดงตีบหรือตัน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือเรื้อรัง ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ หลอดเลือดสมองตีบ เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือหลอดเลือดแดงในไตตีบมากถึงขั้นไตวายเรื้อรังได้

หากคนอายุน้อยตรวจพบความดันโลหิตสูง แต่ไม่พบโรคอื่นแทรกซ้อน ยังสามารถรักษาได้ โดยการลดน้ำหนักลง 5-10% ออกกำลังกายแอโรบิก 30 นาที อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ลดปริมาณแอลกอฮอลล์ เลือกกินผัก ผลไม้ ซึ่งให้ทั้งไฟเบอร์และเกลือแร่ โปแตสเซียม ลดอาหารไขมัน ลดเค็ม เกลือไม่เกินวันละ 6 กรัม (เกลือ 1 ช้อนชามี 5 กรัม) งดบุหรี่ และควรใช้ เครื่องวัดความดัน ตรวจวัดความดันซ้ำห่างกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์

ที่มา : โรงพยาบาลพระรามเก้า , สมาคมความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทย


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://news.voicetv.co.th/infographic/239499.html

สุดช็อค!! ผู้ก่อการร้าย โศกนาฏกรรม ปารีส แท้จริงก็เคยเป็นเด็กเรียนดีมาก่อน

โศกนาฏกรรม ปารีส


เปิดปูม8หัวโจกถล่มปารีส : บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์รายงาน

             เกือบครบรอบหนึ่งสัปดาห์เต็มนับตั้งแต่เกิด โศกนาฏกรรม ปารีส จากการก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งเกิดเหตุกราดยิงและจับตัวประกันในร้านอาหาร เกิดเหตุลอบวางระเบิดที่สนามกีฬาสต๊าด เดอ ฟรองซ์ และเกิดเหตุก่อการร้ายที่โรงละครบาตาคลอง จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยราว 150 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อย ส่วนผู้ก่อการร้ายที่เป็นนักรบญิฮัดของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซีเรีย 5 คนได้ระเบิดตัวเองเพื่อทำลายหลักฐานต่างๆ หนีการจับกุมอีกอย่างน้อย 3 คน

             ทางการฝรั่งเศสและเบลเยียมซึ่งเพิ่งมีฉายาล่าสุดว่าเป็น "ชุมโจรก่อการร้าย” ใหญ่สุดในยุโรป ได้ร่วมมือกันตรวจค้นบ้านเรือนที่ต้องสงสัยและกวาดจับผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำเพื่อเค้นหาความจริงและร่องรอยของบรรดาหัวโจกอย่างน้อย 7 คนที่เป็นตัวการลงมือก่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้

             ซึ่งท้ายสุดทางการฝรั่งเศส-เบลเยียมก็ได้รายชื่อและปูมหลังของบรรดาหัวโจกก่อการร้าย โศกนาฏกรรม ปารีส ทั้ง 8 คน

             1.อับเดลฮามิด อับบาอูด ผู้บงการใหญ่
             ตอนนี้เริ่มเป็นที่รู้กันไปทั่วแม้ทางการจะยังไม่แถลงอย่างเป็นทางการว่าผู้วางแผนและตัวการใหญ่ในการก่อการร้าย โศกนาฏกรรม ปารีส ก็คือ อับเดลฮามิด อับบาอูด วัย 27 ปี เจ้าของฉายา “นักฆ่าสัตว์” ของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) หนึ่งในอาชญากรที่โลกต้องการตัวมากที่สุด และเชื่อว่าเป็นคนชักชวนญิฮัดหลายพันคนให้เดินทางไปร่วมรบที่ซีเรีย รวมไปถึง ยูเนส น้องชายซึ่งถือเป็นนักรบไอเอสที่อายุน้อยที่สุดแค่ 13 ปี

             อับบาอูด เป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวเบลเยียมเชื้อสายชาวโมร็อกโก เติบโตที่ย่านโมเลนเบค-แซงต์-ฌอง ถิ่นยากจนทางตะวันตกของกรุงบรัสเซลส์อันเป็นที่พำนักของผู้อพยพหลากหลายเชื้อชาติ เป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “รังโจร” หรือแหล่งซ่องสุมของบรรดามุสลิมสุดโต่งและเป็นแหล่งเกณฑ์นักรบต่างชาติเพื่อไปช่วยไอเอสรบที่อิรักและซีเรีย

             สมัยยังเด็ก อับบาอูดไม่เคยส่อแววแม้แต่น้อยว่าจะเป็นคนหัวรุนแรงมาก่อน แม้กระทั่งในช่วงที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงบรัสเซลส์ จนกระทั่งได้แอบหลบหนีไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอสในซีเรีย แล้วกลายเป็นสมาชิกหัวรุนแรงที่อุทิศตนเพื่อทำสงครามศักดิ์สิทธิ์หรือสงครามครูเสดกับเหล่านักรบครูเสดหรือพวกผิวขาว จนได้เป็นหัวหน้าหน่วยก่อการร้ายในเมืองแวร์วิเยร์ โดยมีส่วนช่วยจัดตั้งและสนับสนุนเครือข่ายก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งในเมืองนี้ และยังวางแผนจะสังหารตำรวจเบลเยียมหลายคนหลังโจมตีนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด ในกรุงปารีส ตามด้วยการถล่มซูเปอร์มาร์เก็ตของชาวยิวแห่งหนึ่ง

             อย่างไรก็ดี ตำรวจติดอาวุธได้บุกทลายเซฟเฮ้าส์ที่ซ่อนตัวของเขาเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา และสังหารนักรบญิฮัด 2 คน ส่วนอับบาอูดเผ่นหนีกลับไปกบดานอยู่ที่ซีเรียอีกครั้ง ในพื้นที่ใต้การยึดครองของไอเอส จนถึงขณะนี้ ตำรวจได้ออกหมายจับในฐานะมุสลิมสุดโต่ง ขณะที่ศาลเบลเยียมได้ตัดสินเมื่อเดือนกรกฎาคมให้จำคุก 20 ปี แม้จะไม่สามารถนำตัวเขามาขึ้นศาลเพื่อฟังคำตัดสินได้

             หน่วยข่าวกรองของฝรั่งเศสและเบลเยียมเพิ่งจะเปิดเผยว่าอับบาอูดอาจจะพัวพันกับแผนก่อการร้ายหลายครั้งที่ถูกสกัดไว้ได้ หนึ่งในนั้นคือการพยายามก่อเหตุนองเลือดบนขบวนรถไฟความเร็วสูงเที่ยวอัมสเตอร์ดัมสู่ปารีสผ่านเบลเยียม เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่ถูกวัยรุ่นอเมริกัน 3 คนขัดขวางไว้ได้ ในจำนวนนี้ 2 คนเป็นนายทหารนอกเวลาราชการ รวมถึงแผนโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่งย่านชานกรุงปารีส แต่คนร้ายเกิดพลาดทำกระสุนลั่นใส่ขาตัวเองแล้วยังมีหน้าโทรศัพท์แจ้งตำรวจ จนทำให้ตำรวจแกะรอยเลือดไปจนถึงรถยนต์แล้วพบอาวุธจำนวนมากซ่อนอยู่

             หนึ่งเดือนหลังจากนั้น เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์นิตยสารดาบิกภาคภาษาอังกฤษของกลุ่มไอเอสถึงเหตุการณ์ในช่วงนั้นว่าตัวเองซึ่งมีชื่อจัดตั้งว่า อาบู อูมาร์ อัล บัลจิกิ พร้อมเพื่อน 2 คนได้แอบเดินทางกลับไปเบลเยียมเพื่อทำสงครามกับนักรบครูเสดที่ก่อสงครามกับมุสลิม ระหว่างทางก็ถูกตามล่าตลอดเวลา มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยถูกตำรวจคนหนึ่งค้นตัวเพราะสงสัยว่าอาจเป็นคนเดียวกับภาพนักรบไอเอสที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ เป็นภาพของความโหดเหี้ยมเลือดเย็นของเขาขณะกำลังลำเลียงร่างไร้วิญญาณที่เต็มไปด้วยเลือดของเหยื่อที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมขึ้นรถกระบะและรถพ่วง แต่สุดท้ายตำรวจก็ปล่อยตัวโดยคิดว่าเป็นคนละคน

             อย่างไรก็ดี เขาต้องเสียเวลาหลายเดือนในการหาช่องทางเดินทางเข้าไปยุโรป จนในที่สุดก็สามารถกลับไปที่เบลเยียม โดยกบดานอยู่ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในแวร์วิเยร์ ระหว่างนั้นก็ได้รับอาวุธจำนวนมาก

             ช่วงนั้น ก็ได้ติดต่อใกล้ชิดกับ บราฮิม อับเดสลาม หนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่ยึดร้านอาหารแห่งหนึ่งในปารีส รวมทั้ง อายูบ เอล คัซซานี คนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีขบวนรถไฟเมื่อเดือนสิงหาคม ทั้งยังติดต่อกับ ซิด อาเหม็ด กูลัม นักศึกษาชาวฝรั่งเศสที่ถูกฟ้องในข้อหาฆาตกรรม พยายามฆาตกรรมและก่อการร้ายจาก แผนโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่งย่านชานกรุงปารีส จากเอกสารที่พบที่บ้านและในเครื่องคอมพิวเตอร์รวมทั้งบันทึกการโทรศัพท์ระบุว่ากูลัมได้ติดต่อกับชายคนหนึ่งในซีเรียที่พูดภาษาฝรั่งเศสซึ่งชักชวนให้เขาวางแผนโจมตีโบสถ์แห่งหนึ่ง

             แต่ความที่เคยมีชื่อในแฟ้มประวัติของตำรวจมาก่อน ทำให้หน่วยข่าวกรองสามารถสืบเสาะพบร่องรอยของเขา ทหารและตำรวจเบลเยียมจึงได้ผนึกกำลังกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของฝรั่งเศสและเบลเยียมอีกกว่า 150 คน บุกททลายเซฟเฮ้าส์แห่งนั้นเมื่อเดือนมกราคม ผลการยิงปะทะกันนานราว 10 นาที ทำให้นักรบญิฮัดทั้ง 2 คนถูกยิงตาย ส่วนอับบาอูดหนีรอดไปได้และได้หลบหนีไปซีเรียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

             อย่างไรก็ดี จากเหตุยิงปะทะล่าสุดที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองแซง-เดอนี ทางตอนเหนือของกรุงปารีสเมื่อเช้าตรู่วันที่ 18 พฤศจิกายน ทำให้เชื่อว่าอับบาอูดอาจจะกบดานที่นี่พร้อมกับซาเลห์ อับเดสลาม ผู้ก่อการร้ายอีกคนหนึ่งที่กำลังหลบหนีการไล่ล่าอยู่

             2. โอมาร์ อิสมาเอล มอสเตฟาย
             โอมาร์ อิสมาเอล มอสเตฟาย วัย 29 ปี ผู้ก่อการร้ายชาวฝรั่งเศส ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ผู้ก่อการร้ายที่ระเบิดฆ่าตัวตายพร้อมเหยื่อบริสุทธิ์ 89 คนที่โรงละครบาตาคลอง เป็นผู้ก่อการร้ายคนแรกที่ตำรวจพิสูจน์ลายนิ้วมือที่พบกลางเศษซากหักพังในงานคอนเสิร์ต

             จากหลักฐานพบว่าเขาเกิดวันที่ 21 พฤศจิกายน 2528 ในเขตยากจนชานกรุงปารีส มีพี่น้อง 6 คน เคยต้องคดีเล็กๆ น้อยๆ 8 คดีระหว่างปี 2547-2553 แต่ไม่เคยต้องโทษจำคุก แม้จะเคยเป็นเป้าหมายแรกที่จะถูกตำรวจกวาดล้างพวกหัวรุนแรงเมื่อปี 2553 ก็ตาม และเขาก็ไม่เคยถูกตั้งข้อหาว่าพัวพันกับกลุ่มก่อการร้าย

             ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานว่าเขาแอบหลบไปซีเรียเมื่อปีที่แล้ว โดยทางการตุรกีเผยว่าได้เคยขอให้ตำรวจฝรั่งเศสช่วยจับกุมเขาถึง 2 ครั้งเมื่อปลายปีที่แล้วและเมื่อกลางปีนี้ ในข้อหาต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายหลังเดินทางไปที่ตุรกีเมื่อปี 2556 แต่ทางการกลับไม่มีเอกสารว่าเขาเดินทางออกจากตุรกีเมื่อใด อย่างไรก็ดี ทางการฝรั่งเศสกลับไม่ใส่ใจกับคำขอร้องนี้

             โอมาร์ อิสมาเอล มอสเตฟาย มีลูกสาว 1 คนเกิดเมื่อปี 2553 ครอบครัวของเขาที่ปารีสซึ่งได้ตัดขาดกับโอมาร์มานานหลายปีเชื่อว่าเขาเดินทางกลับไปอยู่กับครอบครัวที่แอลจีเรีย โดยหารู้ไม่ว่าได้กบดานอยู่ใกล้ๆ กันนี้เอง


             3. ซามี อามิมัวร์ จากชานกรุงปารีส มือระเบิดฆ่าตัวตายที่บาตาคลอง
             ซามี อามิมัวร์ ชาวฝรั่งเศสวัย 28 ปี ซึ่งมีถิ่นพำนักทางตะวันออกเฉียงเหนือของชานกรุงปารีส เป็นมือระเบิดพลีชีพคนที่ 2 กลางงานคอนเสิร์ตที่บาตาคลอง

             ชื่อของเขาปรากฏในแฟ้มตำรวจมื่อเดือนตุลาคม 2555 ตอนที่ถูกตั้งข้อหาว่าสมคบคิดจะก่อการร้ายระหว่างพยายามจะหลบหนีไปเข้าร่วมกับกลุ่มอัล-ไกดาในเยเมน แต่ได้รับการประกันตัวออกมา อีกหนึ่งปีต่อมา เขาก็สามารถหลบหนีออกจากฝรั่งเศสไปเข้าร่วมกับไอเอสในซีเรีย ซึ่งผู้พิพากษาได้ออกหมายจับเขาไปทั่วโลก

             ในการก่อการร้ายครั้งนี้ มีชาวฝรั่งเศส 3 พี่น้องรวมอยู่ด้วย โดยทั้ง 3 คนได้โยกย้ายไปอยู่ที่ย่านโมเลนเบค อันเป็นถิ่นยากจนในบรัสเซลส์ที่ผู้อพยพอาศัยอยู่มาก ในบรรดาพี่น้องทั้ง 3 คนนี้ คนหนึ่งถูกจับกุม คนหนึ่งระเบิดฆ่าตัวตาย คนสุดท้ายถูกตำรวจออกหมายจับไปทั่วโลก

โศกนาฏกรรม ปารีส


             4. บราฮิมหรืออิบรอฮิม อับเดสลาม
             บราฮิม อับเดสลาม วัย 31 ปี ได้ระเบิดตัวเองดับอนาถที่โรงละครบาตาคลอง จากหลักฐานที่พบระบุว่าเกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2527 สื่อเนเธอร์แลนด์รายงานว่าเขาเคยเปิดบาร์แห่งหนึ่งในย่านโมเลนเบค แต่ถูกตำรวจสั่งปิดเนื่องจากปล่อยให้ลูกค้าหลายคนสูบกัญชา ชื่อของเขาปรากฏพร้อมกับชื่อของอับบาอูดในคดีที่ก่อเมื่อปี 2553 และ 2554

             ต้องสงสัยว่าเป็นคนเช่ารถสีดำจากเบลเยียมที่พยานเห็นระหว่างการโจมตีหลายจุดก่อนจะนำไปจอดทิ้งที่ชานกรุงปารีส ภายในมีอาวุธเพียบ


             5. ซาลาห์ หรือซาเลาะห์ อับเดสลาม กำลังหนีการตามล่าขณะตำรวจออกหมายจับ
             ซาลาห์ หรือซาเลาะห์ อับเดลสลาม วัย 26 ปี ที่ตำรวจกำลังเร่งไล่ล่าหลังจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญคนหนึ่ง เชื่อกันว่าเป็นผู้เช่ารถยนต์โฟล์คสวาเกน โปโล คันที่ถูกพบทิ้งไว้ใกล้ๆ กับโรงละครบาตาคลอง ว่ากันว่าตำรวจได้สั่งหยุดรถของเขาพร้อมกับชายอีก 2 คนใกล้ๆ พรมแดนเบลเยียม แต่หลังการตรวจค้นแล้ว ทั้ง 3 คนก็ได้รับการปล่อยตัว กว่าตำรวจจะฉุกคิดได้ ทั้ง 3 คนก็หนีลอยนวลแล้ว ตำรวจได้แต่แก้เกี้ยวด้วยการออกหมายจับไปทั่วโลก โดยระบุว่าเขาเป็นคนที่มีอันตรายมาก พร้อมกับเตือนประชาชนอย่าได้เข้าไปแทรกแซงโดยตรง ถ้าพบเห็นชายผู้นี้


             6. โมฮัมเหม็ด อับเดสลาม
             โมฮัมเหม็ด อับเดสลาม ถูกตำรวจเบลเยียมจับกุมที่ย่านโมเลนเบค ในบรัสเซลส์เพื่อสอบปากคำแต่ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ โดยทนายเผยว่าโมฮัมเหม็ดมีข้ออ้างที่ฟังขึ้นว่าไม่ได้อยู่ในปารีสในช่วงเกิดเหตุ โศกนาฏกรรม ปารีส


             7. บิลัล ฮัดฟาย
             บิไล ฮัดฟาย ชาวฝรั่งเศสวัย 20 ปี ที่โยกย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เบลเยียม เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายอีกคนหนึ่งที่สนามกีฬาสต๊าด เดอ ฟรองซ์ อดีตเคยไปสู้รบร่วมกับไอเอสในซีเรียก่อนจะเดินทางกลับยุโรป


             8. อาเหม็ด อัล-โมฮัมหมัด
             อาเหม็ด อัลมูฮาเหม็ด วัย 25 ปีหนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่เสียชีวิตที่สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ตำรวจพยายามคลี่คลายปมปริศนาว่าตัวตนแท้จริงเป็นใคร เพราะจากพาสปอร์ตที่พบใกล้ศพของเขาชี้ชัดว่าเป็นพาสปอร์ตปลอมที่ทำขึ้นที่ซีเรีย ในพาสปอรฺ์ตระบุว่าเกิดที่เมืองอิดลิบในซีเรียเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2533 ได้เดินทางมาฝรั่งเศสในฐานะผู้อพยพผ่านกรีซหลังได้รับการช่วยเหลือจากเรือที่กำลังจมกลางทะเลเมดิเตอเรเนียนและขึ้นฝั่งที่เกาะเลรอสในกรีซเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม หลังจากได้ยื่นลงทะเบียนในฐานะผู้ลี้ภัย ก็ได้เดินทางต่อไปยังเซอร์เบีย และโครเอเชีย ก่อนมุ่งหน้าไปยังกรุงปารีส จากตั๋วเรือของกรีซระบุว่าเขามายุโรปพร้อมกับชายอีกคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า โมฮัมเหม็ด อัล มูฮาเหม็ด


            9. ฟาเบียง แคลง
             เป็นผู้ต้องสงสัยรายล่าสุดว่าอาจเกิดเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายครั้งนี้ เพราะจากคลิปเสียงที่ตำรวจถอดได้นั้นระบุว่าเป็นเสียงของ ฟาเบียง แคลง วัย 35 ปี นักรบญิฮัดผู้ชำนาญการของเครือข่ายอิสลามิสต์หัวรุนแรงในเมืองตูลูส ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุก 5 ปี เมื่อปี 2552 ในข้อหาเกณฑ์คนไปเป็นนักรบญิฮัด หลังจากนั้นได้หนีไปกบดานอยู่ที่ซีเรีย เชื่อว่ามีความใกล้ชิดกับโมฮัมเหม็ด เมราห์ ซึ่งก่อเหตุสังหารหมู่ 7 ศพเมื่อปี 2555 ในจำนวนนี้เป็นเด็กชาวยิว 3 คน


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.komchadluek.net/detail/20151119/217141.html

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แถลงอาการ"ปอ"ฉบับ12 'หัวใจ/ความดันเลือด'ดีขึ้น

เครื่องวัดความดัน


แพทย์รพ.รามาธิบดี เผยอาการพระเอกหนุ่ม "ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์" ฉบับที่ 12 ชี้หลังผ่าตัดระบายเลือดช่องเยื่อหุ้มปอด หยุดเลือดได้ระดับหนึ่ง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและความดันเลือดควบคุมได้ดีขึ้น

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 พ.ย. รพ.รามาธิบดี ได้ออกประกาศความคืบหน้าอาการป่วยของพระเอกหนุ่ม "ปอ-ทฤษฎี สหวงษ์" ฉบับที่ 12 โดยระบุว่า ตามที่ก้อนเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอดด้านซ้ายกดการทำงานของหัวใจ และระบบไหลเวียนโลหินของผู้ป่วยนั้น คณะแพทย์ผู้รักษาได้ทำการผ่าตัดระบายเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอด เมื่อเวลา 18.30 น. และเสร็จสิ้นการผ่าตัดเมื่อเวลา 20.30 น. ผลการผ่าตัดในเบื้องต้นพบว่า มีจุดเลือดออกซึ่งเกิดจากการฉีกขาดของผังผืดในช่องเยื่อหุ้มปอด และสามารถทำการหยุดจุดเลือดออกนั้นได้ในระดับหนึ่ง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและใช้ เครื่องวัดความดัน ตรวจเช็คความดันเลือดของผู้ป่วยพบว่าควบคุมได้ดีขึ้น หลังผ่าตัดสามารถลดขนาดยากระตุ้นความดันโลหิต อย่างไรก็ตามผู้ป่วยยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.dailynews.co.th/regional/361558

เพราะสิ่งนี้หญิงสาวถึงกับ ระเบิดฆ่าตัวตาย ที่ประเทศฝรั่งเศส

ระเบิด ฝรั่งเศส


ตร.ชุดปฏิบัติการพิเศษฝรั่งเศสยกกำลังบุกจู่โจมกลุ่มผู้ต้องสงสัยโจมตีปารีส ตอนรุ่งสาง ยิงปะทะกันเดือด ก่อนสไนเปอร์จะเหนี่ยวไกเด็ดชีพผู้ต้องสงสัย ดับ 2 ราย ส่วนหญิงอีกคนปลดชนวน ระเบิด ฝรั่งเศส ฆ่าตัวตาย ขณะที่ ตร.รวบตัวผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน


ระเบิด ฝรั่งเศส


เมื่อ 18 พ.ย. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานคืบหน้า เหตุการณ์กลุ่มก่อการร้ายโจมตีปารีส เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. 58 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 129 ราย บาดเจ็บกว่า 350 ราย นำไปสู่การตามไล่ล่าเครือข่ายก่อการร้ายในฝรั่งเศสว่า เมื่อเช้าตรู่ เวลาประมาณ 04.30 น. ของวันพุธที่ 18 พ.ย. ตามเวลาในท้องถิ่น กำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษของฝรั่งเศส ได้บุกจู่โจมล่าผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ โดยเฉพาะ นายอับเดลฮามิด อาบาอุด ชาวเบลเยียมเชื้อสายโมร็อกโก วัย 27 ปี หลังจากสืบทราบว่า กลุ่มคนเหล่านี้ได้หลบซ่อนอาศัยอยู่ที่แฟลตแห่งหนึ่ง ในเขตแซงต์ เดนิส ชานเมืองทางตอนเหนือของกรุงปารีส


ระเบิด ฝรั่งเศส


ในระหว่างปฏิบัติการตามล่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยโจมตีปารีส เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นถนนโดยรอบ และอพยพผู้คน รวมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นอาศัยอยู่แต่ในบ้าน เพื่อความปลอดภัย โดยพยานเผยว่า ได้ยินเสียงปืนดังมาจากบริเวณดังกล่าว ก่อนที่ต่อมา สื่อท้องถิ่น ในฝรั่งเศสจะรายงานว่า มีผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน ประกอบด้วย หญิงหนึ่งคนเสียชีวิตเนื่องจากได้จุดชนวน ระเบิด ฝรั่งเศส ที่ผูกติดไว้กับเอวฆ่าตัวตายส่วนอีก 2 คน ถูกตำรวจแม่นปืน หรือสไนเปอร์ เหนี่ยวไกยิงสังหาร และตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน ขณะที่มีตำรวจได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 นายจากการยิงปะทะกันด้วย


ระเบิด ฝรั่งเศส



อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/content/540284

ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ สุดทนโดนด่าที่ไม่ขอบคุณ "หมอดูสื่อกรรม"

ปอ ทฤษฎี แฟน
ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ
ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ โพสต์เคลียร์!หลังโดนด่าไม่ขอบคุณหมอดูสื่อกรรม ลั่นคนที่ช่วยชีวิตปอคือทีมแพทย์รามาฯ

อาการป่วยของพระเอกหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ยังคงน่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าระวังอย่างเนื่อง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา 17 พ.ย. เข้ารับการผ่าตัดด่วนเนื่องจากเลือดออกเพิ่มมากขึ้นในเยื้อหุ้มปอดซึ่งผ่านไปด้วยดีในระดับหนึ่ง โดยมีแฟนคลับต่างพากันติดตามข่าวและเป็นกำลังใจให้หนุ่มปออย่างล้นหลาม

นอกจากนี้ยังมีหมอดู หมอเดามากมายออกมาทำนายทายทักเสนอวิธีแก้เคล็ดกันไปต่างๆนานาไม่รู้ว่าหวังดีหรือต้องการเกาะกระแส

ล่าสุดทางเพจ ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ อดไม่ได้ที่จะพูดถึงประเด็นนี้ เพราะหลายคนอินบ็อกซ์เข้ามาต่อว่าที่ไม่ขอบคุณหมอดูคนดังกล่าว ระบุข้อความว่า...


"ที่จริงผมว่าผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว แต่มันอดไม่ได้จริงๆครับ ตั้งแต่เมื่อนคืนนี้แล้วมีหลายคนส่งข้อความเข้ามาหาทางเพจ เชิงต่อว่าทางเพจ ว่าทำไมถึงไม่ลงโพสขอบคุณหมอดูสื่อกรรมท่านหนึ่ง พูดทำนองว่าเขาอุตส่าห์นั่งสมาธิเรียกจิตปอกลับมาให้ ผมขอชี้แจงตรงนี้เลยนะครับ เรื่องบาป เรื่องบุญ เรื่องของกุศล ผมเชื่อครับ แต่เรื่องหมอดูผมไม่เชื่อครับ ผมพูดตามในสิ่งที่ผมเห็น

คือคนที่ผ่าตัดและช่วยชีวิตพี่ปอ คือคณะแพทย์โรงพยาบาลรามาฯ แล้วจะให้ผมไปลงขอบคุณหมอดูที่ทยอยมาเกาะกระแสกันได้อย่างไรครับ เพราะมีคำว่า ‪#‎ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่‬ ผมจึงอดทนมานาน มันเลยทำให้มีคนออกมาพูดเรื่องเกินจินตนาการกันมากมาย ผมทราบครับว่าลองทำมันก็ไม่เสียหายอะไร แต่อย่าลืมนะครับคนที่รักพี่ปอไม่พอใจกับเรื่องแบบนี้ก็มีอีกหลายคนนะครับ

รู้ว่าทุกคนทำเพื่อพี่ปอหรือยางคนอาจจะยึดเป็นที่พึ่งทางใจ แต่ก็อยากให้ทำอย่างมีสติครับ เราไม่จำเป็นต้องเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็นเสมอไปโดยไม่มีเหตุผล ผมพูดแบบนี้อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคน ยังไงต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ จากใจ แอดมิน"


ปอ ทฤษฎี แฟน
ปอ ทฤษฎี แฟนคลับ โพส


หลังจากที่โพสต์ไปนั้นชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาเห็นด้วยกดไลค์กดแชร์กันยกใหญ่ พร้อมขอบคุณทีมแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดีที่เป็นคนช่วยชีวิตปอ คนเหล่านี้ต่างหากที่เป็นฮีโร่ตัวจริง!!


ปอ ทฤษฎี แฟน



ภาพข่าวจาก https://www.facebook.com/%E0%B8%9B%E0%B8%AD-%E0%B8%97%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A-1695671710645433/?fref=ts


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.posttoday.com/ent/thai/400328

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อัมพฤกษ์ โรคฮิตอันดับ 1 จากความดันโลหิตสูงและท่านมีความเสี่ยงจะมีลักษณะดังนี้

เครื่องวัดความดัน


ปัจจัยเสี่ยงมีดังนี้
  • อายุ 45 ปีขึ้นไป
  • มีภาวะความดันโลหิตสูง
  • เบาหวาน
  • ไขมันในเลือดสูง
  • โรคหัวใจ อาทิ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ, โรคหลอดเลือดหัวใจ
  • สูบบุหรี่

เพราะความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่มีอันตรายจึงควรใช้ เครื่องวัดความดัน ตรวจเช็คด้วยตนเองจากที่บ้าน


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thaiherbweb.com/articles/42078669/ความดันโลหิตสูง.html

เพราะเคล็ดนี้!! ทำให้สาว อบจ. ถูกหวย 6.1 ล้าน รวยกันเลยทีเดียว

หวย

ต้องเรียกว่าดับเบิลเฮง โชคดีสองเด้ง สาว อบจ.ขอนแก่น ถูกแม่ค้าเรียกให้ซื้อ หวย ที่เหลืออยู่เพียง 2 คู่ เลขท้ายตรงกับทะเบียนรถของพ่อและแม่ จึงซื้อทั้ง 2 คู่ ตัวเลขเรียงกัน ทำให้ถูกทั้งรางวัลที่1 และรางวัลข้างเคียง รับไป 6.1ล้าน...    


เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 พ.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งทางไลน์ว่า เจ้าหน้าที่กองช่าง อบจ.ขอนแก่น ถูก หวย รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 16พ.ย.58 ซึ่งถือว่าโชคดีมาก คือ ถูกทั้งรางวัลที่ 1 และรางวัลข้างเคียง รวมเงินรางวัล 6,100,000 บาท ขณะนี้คนที่ถูกรางวัล รีบเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว

ต่อมา ผู้สื่อข่าว จึงได้ตามไปที่บ้านเลขที่ 184 ม.15 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวสุภัทธ์ฉรา หล้าหา อายุ 32 ปี สาว อบจ.ผู้โชคดี พบอยู่พร้อมหน้าพ่อ แม่ ซึ่งเป็นข้าราชการทั้งคู่

หวย
ทีเด็ดเลขทะเบียนรถ

นางสาวสุภัทธ์ฉรา เผยว่า ทำงานเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป กองช่าง อบจ.ขอนแก่น ก่อนจะถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลข้างเคียง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังเลิกงาน ขณะเดินไปขึ้นรถโดยสารที่ บขส.1 ในเมืองขอนแก่น พบแม่ค้าขาย หวย เหลือเพียง 2 คู่ คือเลขท้าย 82 กับ 83 อย่างละ 1 คู่ ซึ่งตรงกับทะเบียนรถฟอร์จูนเนอร์คันใหม่ ที่พ่อขับไปทำงาน และเป็นทะเบียนที่ได้จากการประมูลคือทะเบียน 8383 ส่วนเลข 8282 ตรงกับทะเบียนรถของคุณแม่ จึงซื้อเอาไว้ทั้ง 2 คู่ โดยไม่ได้บอกใคร

สาวดวงเฮง เล่าอีกว่า พอถึงวัน หวย ออก ทราบเพียงว่า รางวัลเลขท้ายรางวัลที่ 1 คือ 283 จึงเปิดเว็บไซต์เข้าไปตรวจเลขรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 16 พ.ย.เลขที่ออกคือ 795283 ตรงกับ หวย ที่ซื้อไว้ งวดที่ 46 ชุดที่ 63 และถูกรางวัลข้างเคียงคือ 795282 ด้วยเพราะซื้อเลขเรียงกัน เพื่อนๆ ที่ทำงานต่างเข้ามาแสดงความยินดี จึงรีบกลับบ้านมาหาพ่อ แม่ และบอกให้ท่านทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 และรางวัลข้างเคียงรวมทั้งหมด 6,100,000 บาท

หวย
นำ หวย ถ่ายเอกสารไว้เป็นหลักฐาน

"จากนั้นได้ถ่ายเอกสารและเซ็นชื่อกำกับเอาไว้ ก่อนที่จะนำไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เมื่อพ่อ แม่ พร้อมก็จะพากันไปรับรางวัล เมื่อได้รางวัลแล้ว จะแบ่งทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้คุณปู่ และเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว นอกจากนี้ คนในครอบครัวยังถูก หวย เลข 83 อีกหลายหมื่นบาทด้วย" สาว อบจ.ว่าที่ เศรษฐินีคนใหม่กล่าว


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/content/539856

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ความดันโลหิตสูงลดง่ายๆ ด้วย “สีเขียว”

เครื่องวัดความดัน

โรคความดันโลหิตสูงสามารถเช็คได้ด้วย เครื่องวัดความดัน เป็นโรคที่มักไม่แสดงอาการให้เห็นในระยะต้นๆ  จะเริ่มแสดงอาการต่อเมื่อโรคความดันโลหิตสูง ได้ส่งผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ โดยโรคความดันโลหิตสูง สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ ความดันโลหิตสูงชนิดปฐมภูมิ (Essential / Primary Hypertension) เป็นภาวะความดันโลหิตสูงที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ และพบได้มากที่สุด ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมได้โดยการใช้ยาและการควบคุมอาหาร อีกประเภทคือความดันโลหิตสูงทุติยภูมิ (Secondary Hypertension) มีสาเหตุมาจากโรคอื่น เช่น โรคไต ดังนั้นการดูแลผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ควรต้องดูแลเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษควบคู่กันไปกับการรักษาทางการแพทย์

สารอาหารที่มีผลต่อความดันโลหิตได้แก่

  • โซเดียม คนที่กินอาหารรสเค็มจัดเป็นประจำ เพื่อใช้ เครื่องวัดความดัน ตรวจจะพบว่ายิ่งทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ควรจำกัดโซเดียมไม่เกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับเกลือ 1 ช้อนชา หรือ น้ำปลาหนึ่งช้อนโต๊ะ และหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารเนื้อสัตว์แปรรูปซึ่งมักมีโซเดียมแฝงตัวอยู่ในริมาณมาก
  • โพแทสเซียม แคลเซียม และแมกนีเซียม มีงานวิจัยระบุว่าการรับประทานอาหารที่ให้สารอาหารเหล่านี้อย่างเพียงพอ มีส่วนช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงได้ ควรเน้นกินอาหารประเภทผักใบเขียว เช่น ผักโขม บรอกโคลี มะกอกเขียว พริกเขียว คะน้า ใบผักกาด และ ผลไม้ เช่น กล้วย ที่ให้โพแทสเซียม นม โยเกิร์ต ปลาที่กินได้ทั้งก้าง ที่ให้แคลเซียม หมั่นกิน ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง ที่ให้ใยอาหารและแมกนีเซียม 


คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง หรืออยากป้องกันโรคความดันโลหิตสูงต้องหันมาทานผักสีเขียว นม และธัญพืชต่างๆให้มากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องควบคุมหรือหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสเค็มจัด อาหารมัน และแอลกอฮอล์ทุกชนิด พร้อมทั้งหันมาใส่ใจกับโภชนาการที่เหมาะสมกันตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างเช่น การเลือกรับประทานอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ อาทิ นมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนม ที่ให้แคลเซียมสูง ไขมันต่ำ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
https://www.goodfoodgoodlife.in.th/มื้ออร่อยได้สุขภาพ/เมนูพิเศษเมื่อต้องการสารอาหา/ความดันโลหิตสูงลดง่ายๆ-ด้วย-ส

The Lobster โสด เหงา เป็น ล็อบเตอร์ (ซับไทย)

The Lobster โสด เหงา เป็น ล็อบเตอร์
The Lobster โสด เหงา เป็น ล็อบเตอร์


เรื่องย่อ The Lobster โสด เหงา เป็น ล็อบเตอร์


"ผมไม่เชื่อว่าความรักมีอยู่จริง หากต้องอยู่โดดเดี่ยวไปจนชั่วชีวิต ผมขอเลือกที่จะเป็น Lobsters " The Lobster คือภาพยนตร์เจ้าของรางวัลขวัญใจกรรมการจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2015 หนังเล่าเรื่องในยุคอนาคตที่ผู้คนหมดศรัทธาในเรื่องของความรัก คนโสดจะถูกบังคับให้ย้ายเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า "The Hotel" ก่อนเดินทางพวกเขาต้องเลือกว่า ในชีวิตที่อยู่อย่างไร้รักและโดดเดี่ยว ถ้าเลือกเป็นสัตว์ได้ 1 ชนิด คุณจะเลือกเป็นอะไร หลังการเลือก พวกเขาจะมีเวลา 45 วัน ในการตกหลุมรักและค้นหาคนที่จะเป็นคู่แท้ ถ้าหากว่าหาคู่ไม่ได้ภายในเวลาที่กาหนด ก็จะต้องกลายร่างเป็นสัตว์ที่ตนต้องการ แล้วถูกปล่อยเข้าป่า แต่ทว่า ในช่วงเวลา 24 ชม. ก่อนหมดเวลา 45 วัน เดวิด ได้หนีออกจาก "The Hotel" เพื่อจะพบว่า " ไม่มีใครปฏิเสธความรักได้ แม้ในวันที่เราต้องการอยู่อย่างเดียวดายมากที่สุดในโลก "

The Lobster โสด เหงา เป็น ล็อบเตอร์
รูปจากในภาพยนต์ The Lobster โสด เหงา เป็น ล็อบเตอร์

ผู้กำกับ : Yorgos Lanthimos
นักแสดง : Léa Seydoux, Colin Farrell, Rachel Weisz


The Lobster โสด เหงา เป็น ล็อบเตอร์


คลิปตัวอย่างภาพยนต์ The Lobster โสด เหงา เป็น ล็อบเตอร์ ซับไทย



เข้าฉายวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนต์

คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง!!! ควรหลีกเลี่ยงอาหารอะไรบ้าง?

เครื่องวัดความดัน
ความดันโลหิตสามารถวัดได้ด้วย เครื่องวัดความดัน ซึ่งความดันโลหิตจะเป็นแรงผลักดัน

ให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆในร่างกายของคนเรา

เมื่อหัวใจบีบตัวหัวใจจะบีบเลือดไปยังหลอดเลือดแดง

ทำให้เกิดความดันโลหิตซึ่งเกิดจากการบีบตัวของหัวใจ

และแรงต้านทานของหลอดเลือด หัวใจคนเราเต้น 60-80ครั้ง

ความดันก็จะเพิ่มขณะที่หัวใจบีบตัว และลดลงขณะที่หัวใจคลายตัว







ความดันโลหิตของคนเราไม่เท่ากันตลอดเวลาขึ้นกับ

ความเครียด การออกกำลังกาย การนอนหลับ

แต่ความดันโลหิตนั้นไม่ควรเกิน 140/90

ซึ่งหากสูงกว่านี้แสดงว่าเราเป็นโรคความดันโลหิตสูง


คนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ

ที่มักมีปัญหาหลอดเลือดแข็งตัว(ตามภาวะความเสื่อมของร่างกาย)

ทำให้หลอดเลือดเสียความยืดหยุ่น

จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารที่มีคอเรสเตอรอลสูง

อาหารเหล่านี้ได้แก่ หมูสามชั้น ตับ ถั่ว น้ำมันหมู

ไข่ปลา โกโก้ น้ำมันเนย รวมทั้งเหล้า

อาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดความร้อนชื้นสะสมในร่างกาย

ความชื้นนี้มีผลให้เกิดความหนืดของการไหลเวียนเลือด

ต่อร่างกายทุกระบบ ความร้อนทำให้ภาวะร่างกายถูกกระตุ้น

ทำให้ความดันโลหิตสูงนั่นเองครับ


นอกจากนี้ คนที่เป็นความดันโลหิตสูง

ควรหลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดมาก อาหารรสจัดๆทั้งหลาย

อาหารที่หวานมากๆ รวมถึงผลไม้รสหวาน

หรือผลไม้ที่มีคุณสมบัติร้อนอีกด้วย

ผลไม้เหล่านี้ได้แก่ ลำไย ขนุน และทุเรียน เป็นต้น


คงเคยได้ยินกันมาบ้างนะครับว่า

คนที่กินทุเรียนควบคู่กับการกินเหล้านั้น อาจเสียชีวิตได้

ซึ่งคนที่ความดันโลหิตสูงนั้น หากกินเหล้ากับทุเรียน

อาจหมดสติหรือเสียชีวิตได้จากภาวะเส้นเลือดในสมองแตก


สรุปก็คือ คนที่เป็นความดันโลหิตสูง หรือเพิ่งเริ่มสูงก็ตาม

ต้องเพิ่มการดูแลสุขภาพร่างกายของเรากันอีกนิดครับ

ควรซื้อ เครื่องวัดความดัน มาหมั่นตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ

ลดความเครียด พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ

ออกกำลังกายเป็นประจำ และใส่ใจในอาหารการกิน

เพียงเท่านี้เราก็จะใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างมีความสุขแล้ว

เพราะสุขภาพที่ดี นำไปสู่ชีวิตที่ดี…จริงไหมครับ


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.oknation.net/blog/kritwat/2012/01/15/entry-2

ฟุตบอลไทย อัดไต้หวัน 4-2 มาดูกันเลยว่าเข้ารอบสุดท้ายคัดบอลโลกหรือยัง?

ฟุตบอลไทย
ฟุตบอลไทย ก็โหดไม่แพ้ต่างชาติ

หลังจากที่ “ช้างศึกทีม ฟุตบอลไทย” เปิดบ้านเอาชนะทีมชาติไต้หวันไปแบบมีเสียว 4-2 เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา เรามาดูกันว่าพวกเขาต้องการเงื่อนไขใดบ้างเพื่อตีตั๋วสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดเลือกฟุตบอลโลก

เชื่อได้เลยว่าขณะนี้แฟน ฟุตบอลไทย ทั่วประเทศต่างก็กำลังใจสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าสรุปแล้วหลังจากที่เปิดบ้านเอาชนะทีมชาติไต้หงันได้ 4-2 ...ทีม ฟุตบอลไทย ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายคัดบอลโลกแล้วหรือยัง โดยก่อนหน้านี้เราเคยรายในงานในเงื่อนไขแรกว่าการจะทำให้ทีม ฟุตบอลไทย เข้าสู่รอบสุดท้ายหลังจบเกมนี้ต้องมาลุ้นผลงานกลุ่มอื่นข้างล่างนี้ให้เป็นใจ 3 จาก 5 นัด

(ก) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ vs ติมอร์ - กลุ่ม A - ลุ้นยูเออีไม่ชนะ
(ข) ออสเตรเลีย vs คีร์กิซถาน - กลุ่ม B - ลุ้นออสเตรเลียไม่ชนะ
(ค) จีน vs ภูฏาณ - กลุ่ม C - ลุ้นจีนไม่ชนะ
(ง) สิงคโปร์ vs ญี่ปุ่น - กลุ่ม E - ลุ้นญี่ปุ่นไม่ชนะ
(จ) อุซเบกิสถาน vs เกาหลีเหนือ - กลุ่ม H - ลุ้นเกาหลีเหนือชนะ

 แต่ผลปรากฏว่า ออสเตรเลีย เอาชนะไปได้ 3-0, จีน เอาชนะ ภูฏาณ 12-0, ญี่ปุ่น บุกเชือด สิงคโปร์ 3-0 ขณะที่ อุซเบกิสถาน เปิดเอาชนะ เกาหลีเหนือ 3-1 ทำให้การการันตีเข้ารอบยังไม่ชัวร์ 100% โดยหลังจากนี้ก็ต้องไปวัดผลกันในวันที่ 17 พ.ย. อีกที ซึ่งเราต้องลุ้นให้เงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามนี้...


เงื่อนไขช้างศึกเข้ารอบสุดท้ายคัดบอลโลก

(ก) อิรักพลาดท่าไม่ชนะไต้หวัน
หากว่าทีมชาติอิรัก ทีมเต็งจ่าฝูงกลุ่ม F ไม่สามารถบุกไปเอาชนะทีมชาติไต้หวันได้ โดยแม้ว่าผลจะออกหน้าเสนอหรอืแพ้ในการบุกไปเยือนวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ “ช้างศึก” จะการันตีการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายทันทีในฐานะแชมป์กลุ่มโดยไม่จำเป็นต้องดูผลสายอื่น อย่างไรก็ตามหาก “สิงโตแห่งเมโสโปเตเมีย” เอาชนะไต้หวันได้ ทีม ฟุตบอลไทย จะต้องมาลุ้นกันต่อในกรณีที่สองคือการ...

(ข) วัดรองแชมป์กลุ่ม
หากทีมชาติอิรักบุกไปเอาชนะทีมชาติไต้หวันได้ ทีมชาติก็ยังคงมีลุ้นเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายในฐานะรองแชมป์กลุ่มที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องให้ผลสายอื่นเป็นใจดังนี้

- เยเมน vs อุซเบกิสถาน - กลุ่ม H - เยเมนมีแต้ม
- ฮ่องกง vs จีน - กลุ่ม C - ลุ้นผลเสมอ
- สิงคโปร์ vs ซีเรีย - กลุ่ม E -  สิงคโปร์มีแต้ม
- เมียนมาร์ vs คูเวต - กลุ่ม G - เมียนมามีแต้ม
- มาเลเซีย vs สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ - กลุ่ม A -  มาเลเซียมีแต้ม
- คีร์กิซสถาน vs จอร์แดน - กลุ่ม B - จอร์แดนไม่ชนะ

ในกรณที่ผลการแข่งขันเป็นไปตามนี้ 3 จากทั้งหมด 6 คู่ ทีม ฟุตบอลไทย จะการันตีเข้าสู่รอบสุดท้ายคัดเลือกฟุตบอลโลกทันที แต่หากผลการแข่งขันไม่เป็นใจก็จะต้องไปวัดกันต่อในการแข่งขันนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มที่จะบุกไปเยือน ทีมชาติอิรัก ในช่วงเดือนมีนาคมต่อไป...


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.fourfourtwo.com/th/features/epidenguuenaikh-chaangsuek-ekhaarbsudthaaykhadblolkhlangadaithwan#:nnvuaFssxBB7hA 

โลกตะลึงอีกครั้งเหตุการณ์ ศุกร์ 13 กับเศษซากยานนาซ่า?

ศุกร์ 13
โลกตะลึงอีกครั้งเหตุการณ์ ศุกร์ 13 กับเศษซากยานนาซ่า?

เมื่อใดที่ปรากฏว่าวันที่ 13 ในแต่ละเดือน เกิดไปตรงกับวัน ศุกร์ 13 ตามความเชื่อของชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก จะเชื่อกันว่า ถือเป็นวันแห่งความโชคร้าย เนื่องจากวันดังกล่าว เป็นวันที่พระเยซู สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน แต่ในวัน ศุกร์ 13 พ.ย. พ.ศ.2558 นี้ ออกจะพิเศษกว่าศุกร์ 13 ที่ผ่านๆ มา เพราะจะมีเหตุการณ์ที่ชาวโลกต้องร่วมลุ้นระทึกไปพร้อมๆ กัน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สุดจะบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อจะปรากฏมีวัตถุจากนอกโลก เสี่ยงที่จะพุ่งเข้ามาเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของมนุษยชาติ ซึ่งก็ดันจะไปตรงกับวัน ศุกร์ 13 ซึ่งว่ากันว่าเป็นวันแห่งความโชคร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อถึงบรรทัดนี้ บรรดาแฟนนานุแฟน ชาวไทยรัฐออนไลน์ คงอยากจะทราบแล้วว่า ปรากฏการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นมันคืออะไรกัน...

และแน่นอน เมื่อใดก็ตามที่โลก จะต้องพบกับปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาด และต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนทางวิทยาศาสตร์ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ไม่เคยพลาด หรือรีรอที่จะให้บุรุษผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดอยู่ในวงการวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยมาช้านาน และถือเป็นผู้เชี่ยวชาญ ขาประจำของทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มาให้คำตอบที่ชัดเจนและอธิบายได้ตามหลักของวิทยาศาสตร์ ....ท่านผู้นี้ก็คือ รองศาสตราจารย์ ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล นักเขียน นักแปล คอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุ ผู้คร่ำหวอดในวงการวิทยาศาสตร์ลำดับต้นๆ ของประเทศไทย

เหตุการณ์ลุ้นระทึก และเสี่ยงต่ออันตรายของชาวโลกที่ว่าคืออะไร? นับจากบรรทัดนี้เป็นต้นไป มาร่วมรับฟังจากปากนักวิทยาศาสตร์เอกของเมืองไทยผู้นี้ เล่าให้ฟังกัน...

อาจารย์ชัยวัฒน์ เริ่มต้นการสนทนา กับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ด้วยคำถามชวนฉงนว่า รู้กันไหม? ...หลังจากนั้นก็ทอดน้ำเสียงเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในประโยคถัดไปว่า...

ศุกร์ 13
กูรูด้านวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของไทย

ไขรหัส ลุ้นระทึก ศุกร์ 13 จริงหรือไม่ เศษซากยานนาซา พุ่งชนโลก!

ในวัน ศุกร์ 13 พ.ย. พ.ศ.2558 เวลาประมาณ 13.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย จะเกิดปรากฏการณ์ให้ชาวโลกต้องระทึกใจกันอีกครั้ง เนื่องจากจะมีสิ่งที่คาดว่าเป็นเศษชิ้นส่วนขนาดยักษ์ ที่มีขนาดใหญ่ประมาณถึง 2 เมตร น้ำหนักร่วม 2,000 กิโลกรัม ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจรวดแชตเทิร์น ที่ส่งยานอวกาศขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา หรือนาซา ที่ถูกส่งขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ หรือโครงการอพอลโล ตั้งแต่ระหว่างปี ค.ศ.1969 - ค.ศ.1972 ซึ่งล่องลอยกลายเป็นขยะ โคจรอยู่ในอวกาศ ช่วงระหว่างโลก และดวงจันทร์ มานานร่วม 46 ปี จะถูกแรงดึงดูดของโลก พุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ จนกลายเป็นไฟร์บอล หรือลูกไฟที่เสียดสีกับชั้นบรรยากาศแล้วเกิดการลุกไหม้ จนทำให้ชาวโลกสีน้ำเงิน สามารถแลเห็นได้อย่างถนัดถนี่...

แล้วมันจะทำให้เกิดอันตราย หรือสร้างความเสียหายให้กับชาวโลก หรือไม่? ทีมข่าวรีบถามโดยพลัน ทั้งที่ๆ อาจารย์ชัยวัฒน์ ยังไม่ทันสิ้นเสียงที่กำลังบอกเล่าอย่างออกรส...

ยังโชคดี พุ่งลงมหาสมุทร และส่วนใหญ่หรือทั้งหมดจะเผาไหม้เป็นลูกไฟในบรรยากาศก่อนตกสู่ผิวโลก แต่หากมีเปลี่ยนทิศ และไม่เผาไหม้ไปเสียแทบทั้งหมดในอากาศ คือยังตกสู่ผิวโลกเป็นส่วนใหญ่ พื้นที่ไหนโดน ไม่ต่างจากถูกนิวเคลียร์ถล่ม!

จอมนักวิทยาศาสตร์ หัวเราะก่อนตอบคำถามนี้อย่างใจเย็นด้วยน้ำเสียงเนิบนาบว่า...เบื้องต้น จากการคาดคำนวณของ ศูนย์เฝ้าระวังที่ทำงานในการตรวจสอบและเฝ้าระวังต่างๆ ที่มีความเสี่ยงจะพุ่งเข้าชนโลก จากทั่วโลก รวมทั้งนาซา คำนวณทิศทางการเดินทางของ เจ้าเศษชิ้นส่วนดังกล่าว ซึ่งในเวลานี้มีชื่อเรียกว่า WT1190F พบว่า หลังจากมันลุกไหม้ในอากาศแล้ว น่าจะร่วงลงสู่มหาสมุทรอินเดีย ช่วงบริเวณนอกชายฝั่งใกล้กับประเทศศรีลังกา ประมาณ​ 100 กิโลเมตร

ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคดีสำหรับชาวโลก ที่มันพุ่งลงทะเลไป แต่...อาจารย์ชัยวัฒน์ นิ่งสักครู่ ก่อนกล่าวประโยคต่อไปว่า...จนถึง ณ วินาทีนี้ ศูนย์เฝ้าระวังต่างๆ โดยเฉพาะนาซา ยังคงจับตาไอ้เจ้า WT1190F นี้อย่างใกล้ชิด และภาวนาว่าอย่าให้มีสิ่งใดไปทำให้มันเกิดเปลี่ยนแปลงวิถีการพุ่งเข้าสู่โลก จากเดิมที่มันควรจะพุ่งลงไปในทะเล แล้วไปลงยังสถานที่สำคัญ หรือแหล่งชุมชนต่างๆ เลย

ศุกร์ 13
มุมมองจากนอกโลก

นั่นเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของไอ้เจ้า WT1190F นี้ หากมันเกิดเปลี่ยนทิศ แล้วไปตกยังแหล่งชุมชน หรือสถานที่สำคัญใดๆ บนแผ่นดินโดยที่ยังเหลือรอดจากการเผาไหม้ในอากาศเป็นส่วนใหญ่ ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ จะไม่ต่างหรือรุนแรงกว่าถูกอาวุธนิวเคลียร์โจมตี! เพราะทั้งขนาดที่ใหญ่ทีเดียว และความเร็วที่ตกลงสู่โลก ประเมินแล้วไม่น่าจะต่างจากอุกกาบาต หรือดาวเคราะห์น้อยขนาดย่อมๆ พุ่งเข้าใส่โลกนัก

และถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ มีหวัง นาซา ได้กลายเป็นจำเลยสังคมให้ชาวโลกรุมประณาม รวมทั้งต้องไปรับผิดชอบ (ชดใช้) ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากเจ้า WT1190F อีกด้วย แต่เอาเถอะ...นักวิทยาศาสตร์ชื่อก้อง ทิ้งเสียงให้ชวนสงสัยอีกแล้ว...

อย่าตื่นตระหนก เชื่อ นาซามีไม้ตายรับมือ หากจวนตัว

อาจารย์ชัยวัฒน์ เล่าให้ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ฟังต่อไปว่า หาก นาซา ถึงคราวต้องโชคร้ายไปด้วยฤทธิ์ของวัน ศุกร์ 13 บังเอิญให้เกิดเซอร์ไพรส์ มีปัจจัยอะไรก็ตามไปทำให้ไอ้เจ้าเศษซากจรวด ส่งยานไปสำรวจดวงจันทร์ที่เคยสร้างชื่อให้ นาซา ดังก้องโลก เกิดเหลือเป็นชิ้นส่วนใหญ่รอดจากการเผาไหม้ในอากาศ และเปลี่ยนแปลงวิถีพุ่งเข้าชนโลก แถมยังอาจมีแนวโน้มจะลงไปชนแหล่งชุมชน หรือ สถานที่สำคัญใดๆ ขึ้นมาจริงๆ ส่วนตัวก็เชื่อว่า นาซา น่าจะมีหนทาง ที่จะแก้ไขไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมแก่ชาวโลก จนประวัติอันโด่งดังของตัวเองต้องด่างพร้อยแน่นอน อาจารย์กล่าวทิ้งท้ายด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

มันมีวิธีแบบนั้นด้วยหรือ? ทีมข่าวชิงถาม ด้วยความงุนงง

มีสิ! อาจารย์ชัยวัฒน์ ตอบอย่างอารมณ์ดี ทำไมจะไม่มีล่ะ? เหตุผลก็เพราะ ประการแรก เจ้า WT1190F นี้ ถูกพบและติดตามเส้นทางของมันมาตั้งแต่แรกแล้ว โดยครั้งแรกที่พบและคาดว่ามันอาจจะพุ่งเข้าใส่โลก คือ ตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 ต่อมาก็ตรวจพบอีกในปี ค.ศ.2012, 2013 และตรวจพบครั้งล่าสุด เมื่อต้นเดือนตุลาคม ค.ศ.2015 นี้เอง เพราะฉะนั้น การคำนวณวิถีการพุ่งเข้าชนโลกของมัน จึงไม่น่ามีความผิดพลาดไปจากที่คาดการณ์เอาไว้ ว่ามันควรจะตกลงไปในมหาสมุทรอินเดีย

ประการที่สอง กระบวนการ หรือแนวคิดต่างๆ สำหรับป้องกันภัยในกรณีมีวัตถุ หรือดาวเคราะห์น้อยพุ่งเข้าชนโลก จนทำให้สรรพสิ่งดับสูญไปจากโลกสีน้ำเงิน เช่นในยุคไดโนเสาร์ เมื่อหลายล้านปีก่อนนั้น ในปัจจุบันวงการวิทยาศาสตร์ ได้มีการคิดค้นและพัฒนาวิธีการต่างๆ เอาไว้มากพอสมควร แถมยังมีความคืบหน้าที่จะสามารถทำได้จริง แล้วในหลายโครงการด้วย

ศุกร์ 13

เปิดสารพัดวิธีสกัดวัตถุพุ่งชนโลก วิธีไหนป้องกันได้ชัวร์สุด

ถ้างั้น วิธีการที่ว่าจะเหมือนในหนังไซไฟต่างๆ ที่ฮอลลีวูดเคยจินตนาการ มาให้เราชมกันไหม?

ก็คล้ายๆ นะ อาจารย์ชัยวัฒน์ หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนเล่าให้ฟังต่อว่า วิธีการต่างๆ ที่ถูกคิดค้นมา ก็มีตั้งแต่

วิธีที่ 1 การใช้แสงเลเซอร์ ยิงเข้าใส่! อาจารย์ชัยวัฒน์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเปื้อนยิ้ม ก่อนเล่าให้ฟังต่อไปว่า ดูเผินๆ เหมือนหนังวิทยาศาสตร์​นะ แต่ปัจจุบัน เท่าที่ส่วนตัวประเมินแล้ว คาดว่าเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาอาวุธเลเซอร์นี้ น่าจะมีความก้าวหน้าไปแล้วประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องไม่ลืมนะว่า การริเริ่มวิธีการนี้ มีต้นทางมาตั้งแต่ประมาณ ยุค 80 ตามแผนโครงการสตาร์วอร์ส ของอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ที่มุ่งสร้างสถานีรบในอวกาศติดอาวุธเลเซอร์นอกโลก เพื่อสกัดภัยคุกคามที่สหรัฐฯ จะถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธยิงข้ามอวกาศของสหภาพโซเวียตเดิม แต่...อาวุธเลเซอร์ สำหรับการป้องกันในกรณีนี้ จะไม่ใช่การยิงเข้าใส่เพื่อทำลาย แต่จะเป็นการยิงเข้าใส่บริเวณด้านหางของวัตถุใดๆ ที่จะพุ่งเข้าใส่โลก ให้เกิดการจุดระเบิด หรือติดจรวดเพื่อเปลี่ยนทิศทางโคจรไปยังที่ปลอดภัย

วิธีที่ 2 อันนี้มีความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติมากกว่าวิธีการแรก เพราะรัสเซีย เคยประสบความสำเร็จในการทดลองมาแล้ว นั่นก็คือ การนำแผ่นพลาสติกพับขึ้นไปกางในอวกาศ เพื่อเป็นกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์ไปยังเป้าหมาย เพื่อนำไปใช้เปลี่ยนวิถีการโคจร เช่นเดียวกับวิธีแรกนั่นเอง เพียงแต่ในกรณีนี้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ แต่อาจต้องใช้ระยะเวลานานเลยทีเดียว กว่าจะทำให้เป้าหมายเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งทำให้เหมาะกับในกรณีที่ว่า โลกของเราสามารถตรวจพบวัตถุอันตรายได้ ก่อนหน้าที่จะพุ่งเข้าชนโลกอย่างน้อย 1 หรือ 2 ปีขึ้นไป

ศุกร์ 13
รองศาสตราจารย์ ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล

วิธีที่ 3 ในกรณีที่เป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ พุ่งเข้าใส่โลก ก็จะมีวิธีเหมือนในภาพยนตร์ Armageddon อันโด่งดังในอดีต คือ นำยานอวกาศที่มีความเร็วสูงขับไปลงจอด แล้วฝังระเบิดที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงลงไป เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนวิถีการพุ่งเข้าสู่โลกของมัน ซึ่งวิธีการนี้ มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติสูงอีกเช่นกัน เพราะ เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในปัจจุบัน ก้าวหน้าถึงขนาดสร้างยานอวกาศ ที่มีความเร็วพอสำหรับไล่ติดตาม และลงจอดบนดาวเคราะห์น้อยได้แล้ว

วิธีที่ 4 วิธีนี้ฟังเผินๆ เหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ นั่นก็คือ การไปลากจูงเอาดาวเคราะห์น้อยขนาดไม่ใหญ่มากนัก มาชนเข้ากับเป้าหมาย เพื่อให้เปลี่ยนทิศทางการโคจรออกไปจากโลก อาจารย์ชัยวัฒน์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเจือหัวเราะอีกครั้ง ก่อนกล่าวต่อไปว่า แต่...ใครจะเชื่อว่า วิธีนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ ณ ปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติมากที่สุดอีกวิธีหนึ่ง นั่นก็เพราะปัจจุบัน เทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา พัฒนาถึงขั้นส่งยานอวกาศไปลงบนดาวเคราะห์น้อยได้แล้ว

และวิธีที่ 5 ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า หากจะนำมาใช้ก็คงต่อเมื่อมนุษย์โลกจวนตัวเต็มที ในระดับรู้ตัวล่วงหน้าว่าจะถูกชนเพียงไม่กี่วัน หรือ สัปดาห์ นั่นก็คือการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ยิงเข้าใส่วัตถุที่จะสร้างความเสียหายให้กับโลก เพราะวิธีนี้มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าใส่ตรงๆ อาจจะทำให้สิ่งที่จะพุ่งเข้าใส่โลก โดยเฉพาะหากเป็นดาวเคราะห์น้อย หรืออุกกาบาตที่มีขนาดใหญ่ แตกเป็นเสี่ยงได้ก็จริง แต่เศษชิ้นส่วนของมัน ก็อาจจะยังคงพุ่งเข้าใส่โลก และสร้างความเสียหายได้เช่นเดิม

ซึ่งเมื่อพิจารณาจากวิธีการต่างๆ ที่ว่านี้แล้ว หากเจ้าเศษชิ้นส่วน WT1190F ของนาซา เจ้ากรรมนี้ เกิดไปมีอะไรพุ่งเข้าชน แล้วเปลี่ยนทิศทางและมีทีท่าว่าจะไปตกในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยต่อมนุษย์ ในวันนี้ ศุกร์ 13 ก็คงมีวิธีการเดียวที่จะสกัดมันได้ คือ การยิงจรวดนิวเคลียร์เข้าใส่เพื่อทำลายมันก่อนที่จะตกลงสู่โลกเท่านั้น

ศุกร์ 13
แสงสีฟ้าที่สะท้อนออกมาดูสวยงามมาก

สำหรับเหตุการณ์ลุ้นระทึก ที่จะเกิดขึ้นใน ศุกร์ 13 นี้ให้อะไรกับวงการวิทยาศาสตร์

จอมนักวิทยาศาสตร์ไทย ครุ่นคิดสักครู่ ก่อนตอบอย่างหนักแน่นว่า ก็ทำให้โลกรู้ได้ว่า เจ้าวัตถุอันตรายในอวกาศนั้น มันสามารถพุ่งลงมาตกใส่โลกได้จริง เหมือนดังเช่นที่ เมื่อประมาณ​ 65 ล้านปีก่อน มีดาวเคราะห์น้อยขนาด 10 กิโลเมตร พุ่งเข้าชนโลก จนทำให้ไดโนเสาร์สิ้นเผ่าพันธ์ุมาแล้ว! และทฤษฎีนี้ก็ได้รับการยืนยันในข้อเท็จจริงมาแล้วด้วย เมื่อไปพบหลักฐานที่ปรากฏเป็นร่องรอยหลุมอุกกาบาตใต้ดิน ที่มีขนาดปากหลุมกว้างถึง 200 กิโลเมตร ซึ่งครึ่งหนึ่งอยู่ที่ใต้เมืองชิคซูลูบ อีกครึ่งหนึ่งอยู่ในอ่าวเม็กซิโก ในปัจจุบัน

ท้ายที่สุด อาจารย์ชัยวัฒน์ ขอกล่าวทิ้งท้ายในแบบฉบับของนักวิทยาศาสตร์ ให้ได้คิดว่า...ในอนาคตอันใกล้นี้ อวกาศจะเป็นพรมแดนใหม่ของมนุษย์ เพราะมนุษย์จะไปอยู่อาศัยกันจริงๆ และเป็นจำนวนมากขึ้นๆ แล้วการที่มนุษย์จะไปอยู่ในอวกาศได้นั้น ทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตจะไปหามาจากไหนได้ เพราะหากนำขึ้นไปจากโลก จะต้องใช้ต้นทุนอย่างมหาศาล เพราะฉะนั้น ง่ายสุดก็คือไปเอาจากดวงจันทร์ และดาวเคราะห์น้อย ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรนานาชนิด ไม่ต่างอะไรจากเหมืองลอยได้ในอวกาศ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์​ อาจมีส่วนช่วยให้มนุษย์โลกสามารถดำรงเผ่าพันธ์ุของตัวเองได้ต่อไป โดยไม่แตกดับไปเหมือนดังเช่นไดโนเสาร์ ที่พ่ายแพ้ให้กับดาวเคราะห์น้อยจากนอกโลก


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://www.thairath.co.th/content/538719

เครื่องวัดความดันโลหิตสูง และภัยเงียบของคนกรุง

เครื่องวัดความดัน
เครื่องวัดความดัน ชนิดอัตโนมัติที่กำลังนิยมใช้ในปัจจุบัน

โรคความดันโลหิตสูงสามารถเช็คได้ด้วย เครื่องวัดความดัน เป็นโรคที่อันตราย เพราะคนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคนี้ไม่ทราบว่าตัวเองเป็น บางคนเป็นหนักมากเมื่อรู้ตัวว่าเป็นความดันก็เส้นสมองแตกไปแล้ว คนที่อายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปขอแนะนำให้ตรวจวัดด้วย เครื่องวัดความดัน เป็นระยะ ๆ เพราะหากตรวจพบว่ามีระดับสูงจะได้รักษาได้ทันท่วงที

เครื่องวัดความดัน
เครื่องวัดความดัน รุ่นดั้งเดิมซึ่งปัจจุบันเลิกใช้แล้ว

วันนี้ (17 พ.ค.) เป็นวันความดันโลหิตสูงโลก (World Hypertension Day) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ได้จัดงาน “ความดันคุมได้ หัวใจเต้นดี” บริการตรวจวัดด้วย เครื่องวัดความดัน ฟรี มีนิทรรศการความรู้เรื่องความดันโลหิตสูง บริการให้คำปรึกษาจากทีมสหสาขาวิชาชีพ ได้แก่ นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด เภสัชกร และ พยาบาลวิชาชีพ

องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ในปี พ.ศ. 2542 ว่า ผู้ใดก็ตามที่มีความดันโลหิตวัดได้ด้วย เครื่องวัดความดัน มากกว่า 140 /90 มม.ปรอท ถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ที่มีความดันโลหิตสูงมักจะไม่รู้ตัวว่าเป็น เมื่อรู้ตัวว่าเป็นส่วนมากจะไม่ได้รับการดูแลรักษา ส่วนหนึ่งอาจจะเนื่องจากไม่มีอาการทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจ ความดันโลหิตสูงเปรียบเสมือนเพชฌฆาตเงียบ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย เช่น โรคหัวใจโรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวาย อัมพฤกษ์ อัมพาต หรืออันตรายถึงแก่ชีวิต ดังนั้นการควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติอย่างสม่ำเสมอ สามารถลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้

ตารางแสดงช่วงของความดันโลหิต

พญ. นพวรรณ กิติวัฒน์ ให้ความรู้ว่าโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวานมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก และมักจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานจะมีโรคความดันโลหิตสูงตามมาด้วย ส่งผลให้การรักษายากขึ้น

พูดง่าย ๆ ว่าหากไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ก็เหมือนมีน้ำเชื่อมอยู่ในกระแสเลือด นอกจากจะส่งผลเสียและก่อให้เกิดการเสื่อมสลายของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายที่ต้องแช่อยู่ในน้ำเชื่อมเป็นเวลานานแล้ว ผนังหลอดเลือดที่มีน้ำเชื่อมอาบอยู่เป็นเวลานานก็ได้รับผลกระทบที่รุนแรงเช่นกัน

โรคความดันโลหิตสูงพบมากในผู้สูงอายุ สมัยนี้คนที่อายุเกิน 60 ปี จะเป็นโรคนี้ถึง 60% และในผู้ที่มีอายุเกิน 80 ปี มีสูงถึง 75% เมื่อมีความดันสูง ผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนมากขึ้น เช่น โรคอัมพฤกษ์อัมพาต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

เครื่องวัดความดัน
รูป เครื่องวัดความดัน แบบปรอทซึ่งปัจจุบันเลิกใช้แล้วเนื่องจากเป็นสารอันตราย

การปรับพฤติกรรมเพื่อช่วยลดความดันโลหิตสูง

1. ลดน้ำหนัก – หากเป็นคนที่น้ำหนักเกินเกณฑ์

2. มีโภชนาการที่ดี – ทานอาหารที่มีปริมาณไขมันอิ่มตัวที่ต่ำ มีผัก ถั่วต่าง ๆ ผลไม้ และคาร์โบไฮเดตรที่ไม่ได้รับการขัดสี

3. ลดปริมาณเกลือโซเดียม – ไม่ควรทานเกลือเกิน 1 ช้อนชาต่อวัน และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีการถนอมอาหาร เช่น อาหารกระป๋อง เพราะจะมีปริมาณโซเดียมมากเพื่อการถนอมอาหาร

4.  ออกกำลังกาย – อย่างน้อย 30 นาทีเกือบทุกวัน

5. สร้างสุขนิสัยการนอนที่ดี – ควรพักผ่อนให้เพียงพอและผ่อนคลายความเครียด เช่น ทำโยคะ หรือไทชี

6. ลดปริมาณแอลกอฮอล์ – ควรดื่มไม่เกินวันละ 60 มิลลิลิตร หรืองดการดื่มเลยจะดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์


อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://th.theasianparent.com/ความดันโลหิตสูง-ภัยเงียบของคนกรุง/