โปรโคดิล ยาแก้ไอสุดฮิตกินแล้วมีอันตรายถึงตาย!!
ณ เวลานี้ เราอาจผ่านหูผ่านตาคลิปเด็กมัธยมย่านสามเสนกินโปรโคดิล จนเกิดอาการชักและพลัดตกลงไปในโคลนริมตลิ่งใต้สะพานภูมิพล หลายต่อหลายคนที่ยังไม่รู้จักยาดังกล่าว อาจจะสงสัยถึงที่มาที่ไปว่า ยาดังกล่าวคืออะไร เด็กเหล่านี้หาซื้อได้จากที่ไหน และมีฤทธิ์ร้ายแรงถึงเพียงใด วันนี้ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ มีคำตอบ...
เด็กหญิงตกตลิ่งเพราะกินยา โปรโคดิล แล้วเกิดอาการชัก |
ตกตลิ่งเพราะ โปรโคดิล |
รู้จักโปรโคดิล ออกฤทธิ์ ออกเดช ออกอาการเช่นไร?
เภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ความรู้เกี่ยวกับตัวยาดังกล่าวว่า โปรโคดิล (procodyl® syrup) เป็นยาแผนปัจจุบัน ประกอบด้วยตัวยาสำคัญคือ promethazine มีข้อบ่งใช้คือ บรรเทาอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นแพ้อากาศ แพ้เกสรดอกไม้ แก้คลื่นไส้ อาเจียน เมารถ โดยมีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอนสะลึมสะลือ
สำหรับผู้ที่แพ้ยาโปรโคดิล อาจมีฤทธิ์ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น วิตกกังวล และถ้าหากกินมากๆ จะมีฤทธิ์กดการหายใจ โดยยาโปรโคดิล เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ที่มักจะชอบนำตัวยาไปใช้ผสมกินในน้ำอัดลม ซึ่งในน้ำอัดลมจะมีกาเฟอีน ที่มีฤทธิ์ในการเข้าไปกระตุ้นให้ตื่น ไม่ให้ง่วงนอน พร้อมๆ กันกับโปรโคดิลที่มีฤทธิ์ให้ง่วง ดังนั้น ผู้ที่รับประทานเข้าไปจะมีอาการจะง่วงๆ มึนงง เมาๆ กึ่งหลับกึ่งตื่น
ส่วน ทรามาดอล (tramadol) นั้นเป็นยาแก้ปวด โดยมีฤทธ์ทำให้เคลิบเคลิ้ม หากรับประทานครั้งละมากๆ อาจทำให้เกิดอาการชักได้ ไข้ขึ้น และกล้ามเนื้อกระตุก บางรายอาจกดศูนย์การหายใจด้วย
โดยทาง อย. ได้ขอความร่วมมือร้านขายยาต่างๆ ให้ขายยาทั้ง 2 ประเภทอย่างระมัดระวัง เนื่องจากยาทั้งสองประเภทมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ในระบบสุขภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะประชาชนที่เจ็บป่วยเล็กๆ น้อย อย่างเช่น คลื่นไส้ อาเจียน เมารถ เมารถ วิงเวียน น้ำมูกไหล แพ้อากาศ คนเหล่านี้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยาพวกนี้อยู่
ยาที่ใช้แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน น้ำมูกไหล แพ้อากาศ ยังมีอีกหลากหลายประเภท แต่ที่วัยรุ่นนิยมนำยาโปรโคดิลมารับประทานนั้น มาจากผู้รับประทานติดใจเรื่องรสชาติเป็นหลัก เนื่องจากตัวยาดังกล่าวมีการแต่งรส แต่งกลิ่นให้ชวนกิน รสชาติจึงกลมกล่อมกว่าตัวยาตัวอื่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้คนไข้ที่กินยาไม่เกิดความรู้สึกพะอืดพะอม ซึ่งไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้คนเอาไปเสพในทางที่ผิด ประเด็นปัญหาคือเอาผลข้างเคียงของยาไปใช้ในทางที่ผิด
เจาะผลเสียโปรโคดิล!
โฆษก อย. ให้ความรู้ว่า โปรโคดิลก็เหมือนกับดื่มสุรา ผลข้างเคียงของยาจะเหมือนอาการเมาสุรา ซึ่งยาทุกตัวมีประโยชน์และโทษ เพราะฉะนั้น กินมากจะเป็นอันตรายและอาจเสียชีวิตได้
หากบอกว่า โปรโคดิลจะต้องใช้ปริมาณมากแค่ไหนที่จะได้รับอันตรายถึงชีวิตนั้น อาจเป็นปัญหาที่เอาไปใช้ในการฆ่าตัวตาย และถ้าไปค้นหาข้อมูลทางวิชาการก็บอกไว้อยู่แล้วว่าค่า LD50 (Lethal dose : ปริมาณยาหรือสารขนาดหนึ่งที่คาดว่าเมื่อได้รับแล้วเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต) อยู่ที่เท่าไหร่ ซึ่งยาทุกตัวก่อนที่จะวิจัยและพัฒนามาใช้ในคนได้ เรื่องรายละเอียดที่ทำให้ถึงตายมีเขียนบอกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรทั้งหมดและอยู่ในตำรายาทุกเล่ม แต่ไม่สามารถเผยแพร่ออกไปได้ เนื่องจากว่าการเปิดเผยจะส่งผลกระทบให้เกิดการฆ่าตัวตายเพิ่มมากขึ้น
โฆษก อย. ระบุอีกว่า หากกินโปรโคดิลสะสมเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลจะทำให้ระบบประสาทเชื่องช้า เซื่องซึมลง ซึ่งตัวยาเหล่านี้จะทำให้เกิดการเสพติดได้
เภสัชกรประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) |
อย.ล่อซื้อ! ห้ามขายเกิน 1,000 แคปซูล ห้ามจำหน่ายเด็กต่ำกว่า 17 ปี
สำหรับการซื้อยาในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ร้านขายยาจะถูกกำหนดว่าสามารถจำหน่ายได้ เดือนละไม่เกิน 300 ขวดต่อร้าน และขายได้ไม่เกิน 3 ขวดต่อคน โดยจะต้องขายให้เฉพาะคนที่จำเป็นจะต้องใช้ หรือผู้ที่มีอาการ เช่น น้ำมูกไหล แพ้อากาศ เมารถหรือเมาเรือ เท่านั้น ไม่ควรขายให้กับเด็กที่จะเอาไปใช้ในทางที่ผิด รวมถึงต้องควบคุมการขายโดยเภสัชกร พร้อมให้คำแนะนำที่ถูกต้องต่อผู้ที่จะซื้อไปใช้ ส่วนยาแก้ปวดจะกำหนดให้ร้านขายยาสามารถซื้อขายได้ไม่เกิน 1,000 แคปซูลต่อเดือน ห้ามขายให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี และขายได้ครั้งละไม่เกิน 20 เม็ด และจะต้องไม่จำหน่ายให้กับเด็กที่จะนำไปใช้ในทางที่ผิด รวมถึงจะต้องทำบัญชีทุกครั้งที่มีการซื้อและการขายด้วย
"ถ้าได้รับเรื่องว่ามีการซื้อขายในทางที่ผิดเราก็จะดำเนินการล่อซื้อ โดยหากตรวจสอบพบว่าทางร้านขายยามีพฤติกรรมดังกล่าวจริง จะดำเนินการพักใช้ใบขออนุญาตร้านขายยา เป็นระยะเวลา 120 วัน อย่างไรก็ตาม ร้านขายยาโดยส่วนใหญจะไม่มีพฤติกรรมการขายในลักษณะดังกล่าว เพียงแต่จะมีร้านขายยาบางร้านเท่านั้นที่ยังคงฝ่าฝืนในเรื่องของกฎระเบียบที่ทาง อย. กำหนดออกมา" รองเลขาธิการ อย. กล่าว
แต่อย่างไรก็ตาม ยาดังกล่าวนี้ยังคงเป็นยาที่ดีและมีราคาถูกอยู่ เพียงแต่ถ้าต้องการยาตัวนั้น จะต้องมีใบสั่งจากแพทย์ โดยจะสามารถรับได้ที่คลินิคและโรงพยาบาล แต่ถ้ามีอาการแพ้ เช่น น้ำมูกไหล เมารถหรือเมาเรือ ก็จะสามารถรับยาตัวนี้ได้ที่โรงพยาบาล
ทางออกสกัดวัยรุ่นแห่กินโปรโคดิล ต้องเริ่มแก้ที่สังคม
สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องนี้ ต้องไปช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องของการติดยา เนื่องจากปัจจุบันสังคมของเด็กในช่วงนี้มีความเสี่ยงในเรื่องของการติดยาเสพติด ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาทางด้านสังคม เด็กจึงหันไปใช้ยา แต่ว่าในตอนนี้ประเทศไทยกำลังแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ยิ่งไปควบคุมยาตัวนี้มากๆ อนาคตเด็กก็ไปหายาตัวอื่นมาใช้แทนเหมือนเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ขณะเดียวกัน ยาพวกนี้ยังเป็นยาที่จำเป็นที่จะต้องใช้ในระบบสาธารณะสุข เพราะว่าการเจ็บป่วยบางครั้งประชาชนก็ไม่ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลทุกราย ถ้าไปควบคุมให้จำหน่ายยาได้เฉพาะในโรงพยาบาล ก็จะทำให้การเข้าถึงยายากเกินความจำเป็น หรือถ้าแก้ปัญหาเรื่องโปรเมทาซีน (Promethazine) เรียบร้อย เด็กก็อาจหันไปใช้ คลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine) ขึ้นมาอีก ก็ต้องเอา คลอเฟนิรามีน ไปอยู่ในโรงพยาบาลอีกด้วยหรือไม่ ถ้าแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแบบนี้ก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาเด็กติดยาเสพติดที่แท้จริง
"ยานั้นเป็นยาที่ดีและมีราคาถูกด้วย ประเด็นอยู่ตรงนี้เราควรจะแก้ปัญหาให้ตรงจุด นั่นคือ แก้ปัญหาสังคมควบคู่กัน เพราะขณะนี้ ไปมุ่งเน้นทางด้านเศรษฐกิจ ด้านวัตถุนิยม อย่างเดียว จนทำให้สภาวะสังคมขาดความอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งปัญหาหลักมันอยู่ตรงจุดนั้น" เภสัชกรประพนธ์ กล่าวทิ้งท้าย
CR : http://www.thairath.co.th/content/509260
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น